ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกหลังนักลงทุนมองศก.มุมบวก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 2, 2011 07:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐยังสามารถเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.6% ปิดที่ 238.93 จุด ดัชนี FTSEurofirst 300 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบลูชิพปิดบวก 0.65% แตะที่ 973.39 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 9.07จุด หรือ 0.28% แตะที่ 3,265.83 จุด และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5418.65 จุด บวก 24.12 จุด อย่างไรก็ตาม ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปรับตัวลง 54.22 จุด หรือ 0.94% ปิดที่ 5,730.63 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.ขยายตัวที่ระดับ 50.6 จุด ซึ่งลดลงจากเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 50.9 จุด แต่ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค.สามารถขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 48.5 จุด นอกจากนี้ ดัชนียังสามารถเคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นระดับที่บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของยูโรโซน ซึ่งฉุดตลาดหุ้นเยอรมนีปิดลบเมื่อคืนนี้ด้วย โดยมาร์กิต อิโคโนมิครายงานว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตในยูโรโซนร่วงลงแตะ 49 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 50.4 จุด

หุ้นกลุ่มธนาคารได้แรงหนุนจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ทางการอังกฤษจะเลื่อนเวลาในการปฏิรูปภาคการธนาคารภายในประเทศออกไปก่อน ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) พุ่งขึ้น 8.2% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์พุ่งขึ้น 5.6% หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป พุ่งขึ้น 6.2%

หุ้นกลุ่มสื่อสารของยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนมองว่าเป็นหุ้นกลุ่มที่ปลอดภัย โดยหุ้นฟรานซ์ เทเลคอมดีดขึ้น 1.4% หุ้นดอยช์ เทเลคอมของเยอรมนีพุ่งขึ้น 2.2% หุ้นโนเกียวพุ่งขึ้น 5.2% และหุ้นโวดาโฟนซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมของอังกฤษพุ่งขึ้น 2.1%

หุ้นแกล็กโซสมิธไคลน์ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของอังกฤษทะยานขึ้น 1.4% ส่วนหุ้นชาร์เตอร์ อินเตอร์เนชันแนล ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.7% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเมลโรส ยื่นขอเสนอซื้อกิจการของชาร์เตอร์ในราคา 850 เพนซ์ต่อหุ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ