สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ.เอื้อวิทยา ได้ยื่น Filing version แรก ในวันที่ 1 กันยายน 2554 เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 99,496,000 หุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 28.43 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยจำนวนไม่เกิน 28.30 ล้านหุ้น จะเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของบมจ. แคปปิทอล เอ็นจิเนียริง(CEN) โดยมีบล.คันทรี่ กรุ๊ป เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
วัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และใช้จัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ และบริษัทจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งปงระเทศไทย(SET)
บมจ.เอื้อวิทยา ประกอบธุรกิจรับผลิตเสาโครงเหล็กประเภทเสาโครงเหล็กสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาโครงเหล็กโทรคมนาคม เสาโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย งานโครงเหล็กทั่วไป ตามความต้องการของลูกค้า และให้บริการชุบสังกะสีแก่ลูกค้าทั่วไป รวมถึงจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2554 มีรายได้รวม 303.66 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.17 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากบริษัทมีรายได้จากการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้การค้าบริษัท ปิคนิค จำนวน 11.55 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลให้บริษัททำการโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวนดังกล่าว และ ณ 30 มิ.ย.54 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 667.54 ล้านบาท หนี้สินรวม 221.68 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 445.86 ล้านบาท
ณ วันที่ 15 พ.ยง53 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 350 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 350 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีทุนชำระแล้ว 250.50 ล้านบาท โดย ณวันที่ 20 เม.ย.2554 บริษัทฯมีผู้ถือหุ้นใหญ่สุดเป็น บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริง(CEN) ถือหุ้น 90.98% หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะถูกลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 65.12%
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล