น.ส.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอสพีซี (SPCG) คาดว่า ในปีนี้น่าจะพลิกมาเป็นกำไร ถึงแม้ว่าในครึ่งปีแรกจะมีผลขาดทุน 18 ล้านบาท ซึ่งเป็นขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ว่าคาดว่าในครึ่งปีหลังจะมีกำไร เนื่องจากการชำระเงินค่าสินค้าที่ทำให้มีผลต่อ FX หมดไปแล้ว
นอกจากนี้ คาดว่า รายได้ในครึ่งปีหลังน่าจะมากกว่าครึ่งแรกที่ 206 ล้านบาท เนื่องจากในครึ่งปีหลังจะทยอยรับรู้โครงการโซล่าร์ฟาร์ม โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการเซ็นสัญญาขายไฟในอีก 2 โครงการ คือ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (โคราช 2) จากัด (SPKR2) และบริษัท โซล่า เพาเวอร์ (เลย1) จากัด (SPLO1) จากปัจจุบันมีอยู่ 3 โครงการ และสิ้นปีอีก 1 แห่ง คือ บริษัท โซล่า เพาเวอร์ (ขอนแก่น 1) จากัด (SPKK1) คาดว่าจะซึ่งจะทำให้คาดว่ารายได้ทั้งปีน่าจะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท
สำหรับภายในสิ้นปีนี้จะมีโครงการโซล่าร์ฟาร์มที่รับรู้รายได้ทั้งหมด 6 โครงการ
น.ส.วันดี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างจัดหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการโซล่าร์ฟาร์มอีก 7 โครงการ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขายไฟได้ ในไตรมาส 2/55 ส่วนโครงการที่ 7 และ 8 น่าจะเป็นการร่วมทุนกับบมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ส่วนโครงการที่ 9 อยู่ระหว่างหารือว่าจะร่วมทุนหรือไม่
ส่วนตามที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเพิ่มทุน จำนวน 340 ล้านหุ้น จัดสรรจำนวน 60 ล้านหุ้น เสนอขายให้กับประชานทั่วไป (PO) และอีก 280 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของหลักทรัพย์แปลงสภาพนั้น น.ส.วันดี คาดว่า จะสรุปราคาได้ราวเดือนพ.ย. ก่อนจะเสนอขายขายในปลายพ.ย. โดยมีมีบล.กสิกรไทยเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปพัฒนาโครงการที่ 9-16 ที่มีมูลค่าโครงการละ 190 ล้านบาท