นายนพดล ธรรมวัฒนะ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.บีจีที คอร์ปอเรชั่น(BGT) ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าเครื่องหมายการค้า"Body Glove" คาดว่ารายได้และกำไรในปี 54 จะเติบโต 15% จากปีก่อน เนื่องจากกำลังซื้อที่ดีขึ้น และกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ก่อนหน้านี้ที่มีปัญหาการเมืองส่งผลกำลังซื้อชะลอ รวมถึงการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดขายเพิ่มทั้งจากสาขาเดิม และ สาขาใหม่ ซึ่งในปีนี้ คาดว่าจะมีจำนวนสาขาเพิ่มเป็น 150 สาขา จาก 130 สาขาในไตรมาส 2/54 อีกทั้งการขยายร้านที่ขายเสื้อผ้าเครื่องหมายการค้า "people market" จะเพิ่มเป็น 10 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบัน 5-6 สาขา
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในไตรมาส 3/54 รายได้จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/54 เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน แต่จะดีกว่าเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/53
"ในไตรมาส 4/54 เชื่อว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีอีกไตรมาสหนึ่ง เพราะเป็นช่วงเทศกาลและมีวันหยุดเยอะ ทำให้ผู้บริโภคซื้อเพิ่มขึ้น และผมมองการบริโภคเสื้อผ้ายังมีต่อเนื่อง เพราะป็นปัจจัย 4 เสน่ห์ของเราอีกอย่างคือไม่แพง และเราขายความเป็นไลฟ์สไตล์ และเรายังคงให้ความสำคัญของ 2 แบรนด์นี้ คงยังไม่เห็นแบรนด์ใหม่เข้ามาในช่วงนี้" นายนพดล กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการขยายสาขาในประเทศเป็น 400 สาขา ซึ่งเป็นระดับจุดอิ่มตัว โดยที่ผ่านมายอดขายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นมากกว่าในกรุงเทพ
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาในกัมพูชา รูปแบบการลงทุน เบื้องต้นมี 3 แนวทาง ทั้งการลงทุนเอง ร่วมทุน และการให้ลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย เหตุผลในการเข้าลงทุนในกัมพูชาเนื่องจากบริษัทได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจที่มีอิทธิพลทางการค้าจากกัมพูชาชวนเข้ามาทำธุรกิจ ซึ่งแผนการทำธุรกิจ ถือว่าอยู่ในความสนใจแทนในฟิลิปปินส์หลังจากที่พันธมิตรที่จะร่วมทุนชะลอ หลังเจอปัญหาลิขสิทธิ์
ส่วนการจ่ายเงินปันผลในปี 54 นายนพดล คาดว่าจะจ่ายในอัตราที่สูงกว่าการจ่ายในงวดปี 53 เนื่องจากโครงการร่วมลงทุนในจีนได้ชะลอออกไป ส่งผลให้บริษัทตัดสินใจนำเงินลงทุนที่เตรียมร่วมทุนกับจีน มาจ่ายเป็นเงินปันผลแทน