น.ส.ชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ไทย เอ็น ดี ที (TNDT) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เรียบร้อยแล้ว ภายใต้ชื่อ บริษัท แอลทีเอ็นดีที จำกัด ทุนจดทะเบียน 100,000 ดอลลาร์ โดยบริษัทฯ ลงทุนในอัตราส่วนร้อยละ 70 และบริษัท พัฒนาอุตสาหกรรม ไฟฟ้า บริการ และการค้าขาออก-ขาเข้า จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ลงทุนในอัตราส่วนร้อยละ 30 ดำเนินธุรกิจทดสอบถังน้ำมัน และถังก๊าซ และบริการด้าน NDT และได้รับใบอนุญาตลงทุนในต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2554 เป็นเวลา 15 ปี ส่วนประเทศ กัมพูชา และเวียดนาม อยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด คาดว่า จะได้ข้อสรุปในไตรมาส 4/54 โดยการร่วมทุนต้องพิจารณาศึกษาให้รอบคอบก่อน ส่วนรูปแบบลักษณะเดียวกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
“งานต่างประเทศชัดเจนแล้วสำหรับประเทศลาว โดยได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเรียบร้อยแล้ว ส่วนการร่วมทุนกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้ง พม่า กัมพูชา ยังอยู่ระหว่างการเจรจา แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ซึ่งหากเป็นไปตามแผน สัดส่วนรับงานต่างประเทศของ TNDT จะเพิ่มเป็น 5% แน่นอน จากปีก่อนที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 2-3% ขณะที่สัดส่วนการรับงานในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 95%" น.ส. ชมเดือน กล่าว
นอกจากนี้ ยังศึกษาธุรกิจพลังงานทางเลือกโดยภายในปลายปีนี้ได้ข้อสรุปในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ในส่วนของการรับงานยังคงอยู่ระหว่างรอผลจากการเสนอราคาที่มีทั้งงานต่างประเทศ ในประเทศมูลค่าราว 50 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นตามรายได้และได้รับสิทธิทางภาษีจากกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) และในปีนี้ยังคงเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่มีรายได้ 244.02 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากงานในมือที่ปัจจุบันมีอยู่จำนวน 210 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เข้ามาทั้งหมดในปีนี้และงานใหม่ที่จะเข้ามาในครึ่งปีหลัง
"ที่ผ่านมาเราประคองตัวค่อนข้างมากจากผลที่งานในประเทศน้อยจากปัญหาการมืองการจึงหันไปในอาเซียนเหมืนกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้เหมือนน้ำซึมบ่อทรายแล้วเรายังมองหาการเข้ารับงานเองแทนการประมูล ซึ่งการทำดังกล่าวทำให้บริษัทเทิร์นอะราวน์" น.ส.ชมเดือน กล่าว