ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากความกังวลที่ว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารของยุโรปด้วย
ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 189.45 จุด หรือ 3.6% ปิดที่ 5,102.58 จุด
หุ้นกลุ่มธนารร่วงลง หลังจากสำนักงานบริการการเงินเพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เตรียมยื่นฟ้องธนาคารขนาดใหญ่17 แห่ง ซึ่งรวมถึงรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) และธนาคารบาร์เคลยส์ ในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเมื่อทำการขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการ ค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดวิกฤติสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปี 2551
ทั้งนี้ หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 12% หุ้นบาร์เคลย์สร่วงลง 6.7%
ส่วนหุ้นอันโตฟากัสต้าในกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 5.2% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวลงสู่ระดับ “sell" จากระดับ "hold"
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงกดดันจากรายงานการสำรวจของ Markit/Cips ที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในภาคบริการของอังกฤษร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 10 ปี จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ตาม หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่สุดของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.8% เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่า เบิร์กลีย์อาจมีผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงเกินคาด