(เพิ่มเติม) OSK เล็งซื้อกิจการ-ควบรวม-ขยายธุรกิจเพิ่ม หลังเทคฯ BSEC สำเร็จ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 6, 2011 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

OSK Investment Bank Berhad (OSK) เตรียมเปลี่ยนชื่อ บล.บีฟิท(BSEC) เป็น บล.โอเอสเค(ประเทศไทย) (OSK Securities Thailand Public Company Limited) หลังเข้าซื้อกิจการสำเร็จ โดยวางเป้าหมายดันขึ้นสู่โบรกเกอร์ 1 ใน 5 ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดภายใน 3 ปี และยืนยันว่ายังไม่มีแผนเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์

พร้อมกันนั้น OSK ยังมองหาซื้อกิจการ ควบรวมกิจการ และขยายธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสนใจที่จะยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย หากทางการเปิดโอกาสให้ ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้ OSK เป็นธนาคารเพื่อการลงทุนในระดับอาเซียน

ผู้บริหาร OSK ระบุว่า หลังจากเข้าบริหารกิจการหลักทรัพย์แล้วจะมีการฟื้นธุรกิจวาณิชธนกิจ และเพิ่มธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์และตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า รวมทั้งมุ่งเป้าหมายขยายฐานลูกค้าต่างชาติให้เพิ่มขึ้น โดยอาศัยเครือข่ายของ OSK ในภูมิภาค

นายเหลียง ฮวท อ็อง ประธานกรรมการ บล.โอเอสเค (ประเทศไทย) หรือ OSK คือ BSEC เดิม เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา OSK ได้เข้าถือหุ้น BSEC ในสัดส่วน 96% แล้ว แต่กำหนดทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์จะสิ้นสุดในวันที่ 9 ก.ย.นี้ ขณะนี้บริษัทฯยังไม่คิดที่จะเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ แม้ว่าสภาพคล่องของหุ้น(ฟรีโฟลต)ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตลาดฯ กำหนดที่ 15% โดยบริษัทฯ มีฟรีโฟลตแค่ 5% แต่บริษัทฯยังมีเวลาอีก 1 ปีที่จะทำให้ได้ตามเกณฑ์

"บริษัทฯยังมีแผนงานที่จะซื้อกิจการต่ออีก และควบรวมกิจการ หรือขยายธุรกิจด้วยตัวเอง สร้างธุรกิจเอง ตอนนี้ก็มอง ๆ อยู่ แต่ยังไม่ได้คุยกับใคร ยังไม่ได้กำหนดตายตัวด้วยว่าจะซื้อกี่บริษัท...การซื้อกิจการแล้วเลิกจ้างพนักงานไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบริษัทฯ การควบรวมกิจการ การจับคู่ต้องก่อให้เกิดประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือองค์กรธุรกิจ"นายเหลียง ฮวท อ็อง กล่าว

ประธานกรรมการ OSK กล่าวต่อว่า บริษัทฯได้ประเมินตัวเองว่าจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาธุรกิจของ BSEC (ชื่อเดิม) ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าที่จะต้องมีการเติบโต ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องขึ้นเป็นอันดับ 1 แต่การเติบโตควรจะมีนัยสำคัญ ภายใต้ธุรกิจที่ดีขึ้น ซึ่งบริษัทหวังขึ้นแท่น Top 5 ภายใน 3 ปีนับจากวันที่ซื้อกิจการ(เมื่อก.ค.2554)

อีกทั้ง ขณะนี้บริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์เพียงอย่างเดียว ต่อไปบริษัทฯมีแผนที่จะทำธุรกิจฟิวเจอร์ส(Futures), ธุรกิจวาณิชธนกิจ(Investment banking)และธุรกิจกองทุน(Fund management)ในอนาคตต่อไป ซึ่งเมื่อทุกอย่างพร้อม ทั้งบุคลากรที่เหมาะสม ระบบงานที่ลงตัว ก็จะนำเสนอให้บริการที่ดีแก่นักลงทุนได้ โดยตอนนี้คงจะต้องเริ่มจากหาบุคลากรมาเสริมทัพก่อนแล้วก็หาเทคโนโลยี ส่วนเงินทุนมีพร้อมอยู่แล้วก็พยายามจะให้นำเสนอได้ในปี 55

นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจหลักทรัพย์ จากเดิม BSEC จะเน้นไปที่ลูกค้ารายย่อยถึงกว่า 90% แต่หลังจากที่ OSK เข้ามาแล้วก็คิดว่าจะขยายฐานลูกค้าต่างประเทศและสถาบันให้มากขึ้น โดยทางกลุ่ม OSK มีแผนที่จะขายผลิตภัณฑ์ของตลาดไทยเสนอขายให้แก่ Fund manager ทั่วโลก ซึ่งเป็นภาพรวมที่สำคัญมากกว่า

"ทางเรามีทิศทางการทำธุรกิจด้วยการสร้างมูลค่าเงินและสร้าผลประโยชน์ให้แก่ผุ้ถือหุ้น เราเดินทางมาจากมาเลเซียเป็นบริษัทเอกชนที่เป็นของบริษัทมหาชนในมาเลเซีย จึงอยากจะสร้าง"ธนาคารเพื่อการลงทุนในระดับอาเซียน" เพราะเรามองเห็นว่าตลาดไทยมีมาร์เก็ตแคปเป็นอันดับที่ 4 ตลาดทุนไทยจึงมีความสำคัญมากเพื่อทำให้ภาพของอาเซียนสมบูรณ์ เพื่อสร้างธนาคารระดับแนวหน้า"ประธานกรรมการ OSK กล่าว

นายเหลียง ฮวท อ็อง กล่าวต่อว่า ในอนาคตหากนโยบายของรัฐบาลไทยเปิดโอกาสให้ขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้ ทาง OSK ก็พร้อมจะพิจารณา แต่เหนือสิ่งอื่นใดในตอนนี้ OSK ต้องการที่จะสร้างจุดแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯก่อน จึงไม่อยากจะมองเป้าหมายมาร์เก็ตแชร์ว่าจะขึ้นเท่าไร ส่วนการขยายสาขาของ OSK ในไทย ก็คงจะต้องมีแต่จะมุ่งไปยังต่างจังหวัดมากกว่า

อนึ่ง 6 เดือนแรกของปีนี้ OSK (เดิมชื่อ BSEC) มีมาร์เก็ตแชร์ในธุรกิจหลักทรัพย์(Equities) 0.5% เป็นอันดับที่ 32

สำหรับการเปิดเสรีโบรกเกอร์ในปีหน้า นายเหลียง ฮวท อ็อง กล่าวว่า "ประเทศอื่น ๆ ได้เปิดเสรีฯแล้ว อย่างมาเลเซีย, สิงคโปร์, ฮ่องกง ดังนั้นสำหรับไทยที่จะเปิดเสรีฯจึงมองว่าไม่ได้แตกต่างกับประเทศอื่น ๆ เพราะเราเคยชินในการดำเนินธุรกิจที่เปิดเสรีฯ การที่เราเข้ามาลงทุนที่ไทย เพราะเรารู้ว่าต้องเปิดเสรีฯในปีหน้า เลยเข้ามา ....การแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี จึงไม่ควรจะกลัว"

ทั้งนี้ 20 ปีที่ผ่านมาทาง OSK จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้งเสมอมา โดยมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล, จ่ายปลายปี และจ่ายปันผลพิเศษ วัตถุประสงค์ของการลงทุนใน BSEC จะต้องสร้างธุรกิจหลักทรัพย์ให้เติบโตมากขึ้น เหมือนการลงทุนในประเทศอื่น ๆ และการซื้อกิจการก็จะทำให้มีการเติบโตได้มากมาย รวมถึงปรารถนาจะสร้างบริษัทนี้ให้เติบดตและเข้มแข็ง เมื่อเกิดขึ้นได้ก็จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งทาง OSK ก็เป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งก็ย่อมที่จะต้องการเงินปันผล จึงต้องทำให้ดีที่สุด ทาง OSK อยู่ในธุรกิจนี้มานาน และมั่นใจว่าจะหาข่าวดีมาให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ