นายสงวน ตรีเจริญวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น(PICNI) ปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้รับการติดต่อจากผู้สนใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 2-3 รายหลังจากกลุ่มของนายวิชัย ทองแตง และนายพิมล ศรีวิกรม์ ไม่ได้จ่ายเงินเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนตามกำหนด ซึ่งเป็นผู้ร่วมทุนรายเดิมที่เคยแสดงความสนใจก่อนหน้านี้ แต่เนื่องจากบางรายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(บจ.) ทำให้ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
การแสดงความสนใจของผู้ร่วมทุนดังกล่าวจะต้องดำเนินการเจรจากับคณะกรรมการเจ้าหนี้โดยตรง ทั้งเงื่อนไขการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน และเรื่องอื่นๆ ซึ่งน่าจะมีความเข้าใจดีว่าบริษัทอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการของศาลล้มละลายกลาง และทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการเจ้าหนี้
ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยกับบริษัท เอเอ็มซี (AMC)กรณีที่ผู้บริหารเดิมนำหุ้น Wolrd Gas จำนวน 7,999,994 หุ้น ไปชำระหนี้ของบริษัท ซึ่งผู้บริหารในขณะนั้นได้ถูกดำเนินคดีอยู่ หากมีข้อยุติบริษัทก็จะได้รับชำระเงินทั้งสิ้น 650 ล้านบาท โดยบริษัทจะจัดสรรจำนวน 50 ล้านบาทเพื่อชำระคืนหนี้ให้เจ้าหนี้ ส่วน 600 ล้านบาทจะนำมาใช้เป็นเงินหมุนเวียนในบริษัท
นายสงวน ชี้แจงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท PICNI เมื่อวันที่ 23 ส.ค.54 พิจารณาและอนุมัติให้ร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อขออนุญาตไกล่เกลี่ยในชั้นศาลฎีกา และบริษัทได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเมื่อวันที่ 30 ส.ค.54 ซึ่งศาลนัดไต่สวนในวันที่ 6 ก.ย.54 ว่าจะอนุญาตให้ไปไกล่เกลี่ยในศาลฎีกาหรือไม่ ถ้าศาลไม่อนุญาตเรื่องนี้เป็นอันตกไปและต้องไปต่อสู้คดีกันต่อในศาลฎีกาซึ่งใช้เวลาอีกหลายปี ถ้าอนุญาตก็ต้องส่งเรื่องไปศาลฎีกา อาจจะใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือนแล้วแต่ความเห็นของศาลฎีกา
ขณะที่ PICNI ได้ดำเนินการลดทุนและเพิ่มทุนเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 26 ส.ค.54 และกลุ่มของนายพิมลได้ส่งจดหมายมาแจ้งว่าจะใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาในวันที่ 29 ส.ค.54 ดังนั้น จะเห็นว่าคณะกรรมการบริษัทปิคนิคมิได้ดำเนินการเรื่องนี้โดยลัดขั้นตอน หรือมิได้พยายามปกปิดเรื่องนี้แต่อย่างใด
ในทางตรงข้ามได้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายและเปิดเผย โดยได้ยื่นขออนุญาตต่อศาลล้มละลายกลางก่อนที่จะยอมความกับบริษัท AMC ซึ่งศาลล้มละลายกลางในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมบริษัทก็มีอิสระในการพิจารณาตามเหตุผลและความจำเป็นของเรื่องนี้ และในขั้นตอนนี้ผู้มีส่วนได้เสียก็สามารถยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลล้มละลายกลาง ถ้าศาลล้มละลายกลางอนุญาตเรื่องทั้งหมดต้องไปจบที่ศาลฎีกาและต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน หากผู้ลงทุนใหม่เพิ่มทุนเข้ามาแล้วและเห็นว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม ผู้ลงทุนก็สามารถถอนเรื่องนี้จากศาลฎีกาได้
"การที่ผู้ลงทุนรายใหม่จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1,700 ล้านบาทครั้งนี้ ผู้ลงทุนทุกรายทราบดีอยู่แล้วว่าหุ้นบริษัท World Gas ที่เป็นกรณีพิพาทอยู่นั้นได้ตกเป็นของบริษัท AMC ตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง เพราะเรื่องนี้ได้เปิดเผยต่อสาธารณะก่อนหน้านี้แล้ว การต่อสู้ต่อไปในศาลฎีกาย่อมมีความเสี่ยงและใช้เวลานานหลายปี ฉะนั้นการอ้างมูลค่าของหุ้นบริษัท World Gas เป็นปัจจัยหลักในการเข้าลงทุนนั้น เป็นการผิดวิสัยของนักลงทุน และก่อนหน้านี้ไม่เคยมีใครพูดถึงปัจจัยนี้เลย เพิ่งจะมีการอ้างเรื่องนี้หลังจากกำหนดเวลา 120 วันไปแล้ว"นายสงวน ระบุ
นายสงวน ยืนยันว่า คณะกรรมการเจ้าหนี้ต้องพิจารณาการดำเนินธุรกิจให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่ตั้งอยู่บนความเสี่ยง เนื่องจากเป็นการเข้ามาฟื้นฟูธุรกิจไม่ได้ต้องการเข้ามาสร้างราคาหุ้นเพื่อหาผลกำไร และหากบริษัทไม่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มทุน บริษัทอาจประสบปัญหาเพราะไม่มีแหล่งเงินทุนใดๆ อีก
ในแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทพยายามจะเพิ่มทุน 1,700 ล้านบาทเพื่อนำมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เดิมทั้งหมด ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจด้วยการซื้อแก๊ส LPG จาก ปตท.โดยมี Bank Guarantee จากธนาคารกรุงไทยวงเงิน 200 ล้านบาทเพื่อค้ำประกันเครดิตของบริษัทฯเพื่อซื้อแก๊สเดือนละไม่เกิน 24,000 ตัน เมื่อชำระหนี้แล้วเสร็จก็จะต้องคืน Bank Guarantee ดังกล่าว มีผลให้บริษัทฯต้องหาเงินจำนวน 200 ล้านบาทหรือใกล้เคียงจำนวนนี้เพื่อออก Bank Guarantee ฉบับใหม่มาทดแทน เพื่อให้บริษัทดำเนินธุรกิจต่อไปได้
และ ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงาน ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย.54 เป็นต้นไปบังคับให้ผู้ค้าทุกรายต้องมีปริมาณแก๊สสำรองไว้ในคลังเพิ่มจากเดิม 0.5% เป็น 1% ของปริมาณค้ารวมต่อปี ส่งผลให้บริษัทต้องเพิ่มปริมาณแก๊สสำรองจาก 1,200 ตัน เป็น 2,400 ตัน ต้องใช้เงินจำนวนประมาณ 20 ล้านบาทเพื่อดำเนินการและจะต้องหาสถานที่เก็บแก๊สเพิ่มขึ้น เพราะคลังที่สมุทรสาครเก็บได้จำกัดพียง 1,800 ตัน
นายสงวน กล่าวว่า ในปีหน้าถ้าบริษัทฯต้องการแก้ไขธุรกิจให้กลับมามีกำไรและคงอยู่ได้ ก็ต้องพยายามเพิ่มยอดขายและเพิ่มปริมาณแก๊สสำรอง คลังเก็บแก๊ส ถังแก๊สในตลาด เงินทุนหมุนเวียนในการซื้อแก๊ส Bank Guarantee ที่วางไว้กับ ปตท. และงบประมาณด้านการตลาด ซึ่งต้องใช้เงินทุนจำนวนมากทั้งสิ้น หากบริษัทฯไกล่เกลี่ยกับ AMC ได้สำเร็จก็จะได้เงินเข้ามาจำนวนประมาณ 650 ล้านบาท จำนวนเงิน 50 ล้านบาทต้องคืนให้เจ้าหนี้เพิ่มเติม ส่วนเงินจำนวน 600 ล้านบาทจะคงไว้เป็นเงินทุนของบริษัทฯในการดำเนินกิจการ
ทั้งนี้ นางสาวจินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ (SGP) ซึ่งเคยตกเป็นข่าวว่าสนใจซื้อหุ้น PICNI กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทไม่ได้เข้าเจรจาเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน PICNI ในขณะนี้ แม้ว่าการซื้อหุ้นดังกล่าวจะช่วยทำให้ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทขยายตัวมากขึ้นก็ตาม เนื่องจากปัญหาภายในของ PICNI มีความซับซ้อน บริษัทจึงไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยว
เช่นเดียวกับ นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น(SAMART)เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์"ว่า กลุ่มสามารถไม่มีความสนใจในการเข้าซื้อกิจการ PICNI และไม่ได้เข้าไปศึกษาหรือร่วมลงทุนกับกลุ่มใดทั้งสิ้น
"ไม่ได้เข้าร่วมกับใครและก็ไม่ได้ศึกษาลงทุนด้วย" นายวัฒน์ชัย กล่าว