นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการลงทุน บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนเบื้องต้นจะเปิดโครงการใหม่ 25 โครงการในปี 55 มูลค่ารวมกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนโครงการที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยปัจจุบันมีที่ดินแล้ว 18 โครงการ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 54 บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่รวม 23 โครงการ ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้านบาท จากครึ่งปีแรกเปิดตัวไปแล้ว 7 โครงการ มูลค่ารวม 8.5 พันล้านบาท
โดยไตรมาส 3/54 จะเปิด 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,758 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ, ทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียมอีก 3 โครงการ และไตรมาส 4/54 อีก 9 โครงการ มูลค่า 14,147 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 2 โครงการ, ทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ
พร้อมกันนั้น บริษัทยังคาดว่าหลังจากปิดงบไตรมาส 3/54 มีโอกาสปรับเป้ารายได้ปีนี้อีก 5-10% จากเดิมคาดว่าจะมีรายได้ 2.05 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 นี้จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ได้แก่ โครงการคอนโดมิเนียม ดี คอนโด อ่อนนุช-สุวรรณภูมิ และคอนโดมิเนียม บล็อก 77
"เราได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในการเจาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับล่าง ภายใต้แบรนด์ดีคอนโดและเดอะเบส ซึ่งโครงการที่เปิดขายก็สามารถปิดการขายได้เกือบทั้งหมด เราก็มีแผนเปิดอีก 3 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งก็จะมีตลาดใหม่ที่ภูเก็ตด้วยเป็นโครงการดีคอนโด ราคาประมาณ 1 ล้านบาท/ยูนิต และปีหน้าก็จะมีการเปิดโครงการที่ภูเก็ตอีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการที่ภูเก็ตรวมกัน 3 โครงการ 2 พันล้านบาท"นางสาววรางคณา กล่าว
นางสาววรางคณา คาดว่า กำไรสุทธิในปี 54 จะสูงกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิกว่า 1.8 พันล้านบาท เป็นไปตามอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 10.5-11.0% จากปีก่อนที่ 10.1% และในอีก 4-5 ปีข้างหน้าคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็น 14-15% ส่วนยอดขายวางเป้าหมายไว้ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยยอดขายตั้งแต่ต้นปี-ส.ค.54 มีจำนวน 1.4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าสิ้นไตรมาส 3/54(ก.ย.54)จะมียอดขาย 1.8 หมื่นล้านบาท
ในปี 55 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้(backlog)ในปีหน้าแล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท จากยอดขายทั้งหมดที่มีอยู่ ณ สิ้น ส.ค.54 ที่ 30,704 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในช่วงครึ่งหลังปี 54 จำนวน 11,295 ล้านบาท และในปี 56 อีก 7,214 ล้านบาท
สำหรับโรงงานพรีคาสท์ในส่วนขยายคาดว่าจะเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/55 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 150 หลังต่อเดือนจากปัจจุบันผลิตได้ 50 หลังต่อเดือน โดยใช้เงินลงทุนก่อสร้าง 500 ล้านบาทจะแล้วเสร็จใน พ.ย. ซึ่งการใช้พรีคาสท์เข้ามาก่อสร้างบ้านทำให้ย่นระยะเวลาการก่อสร้างบ้านเหลือ 75 วันต่อหลัง จากเดิม 6-8 เดือนหากใช้การก่อสร้างแบบเดิม
"โรงงานพรีคาสท์คาดจะก่อสร้างเสร็จช่วงปลายเดือนพ.ย. และก็จะทยอยเอาเครื่องจักรเข้ามาตั้งแต่เดือนนี้ และจะเริ่มเดินเครื่องต้นปีหน้ากำลังการผลิตเพิ่มเป็น 150 หลัง/เดือน จากปัจจุบันที่ 50 หลัง คิดเป็น 80% ของกำลังผลิตที่รับได้ ซึ่งตัวโรงงานก็มีที่ดินเหลืออีกสามารถสร้างได้อีก 1 โรงงาน เราก็ขอรอดูความสำเร็จของโรงงานแรกก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ก่อนตัดสินใจขยายเพิ่ม"นางสาววรางคณา กล่าว
ด้านความคืบหน้าของโครงการคอนโนมิเนียมที่ประเทศอังกฤษมูลค่า 525 ล้านบาท คาดว่าจะปิดขายได้ทั้งหมด 6 ยูนิต ภายในไตรมาส 4/54 นี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดโครงการในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยขณะนี้ก็กำลังมองหาสถานที่อยู่ อาทิ นิวยอร์ก, บอสตัน และลอนดอน มูลค่าโครงการที่จะเปิดใหม่อยู่ที่ 600-800 ล้านบาท และล่าสุดบริษัทได้เลื่อนเวลาการเดินสายโรด์โชว์ที่ยุโรปเป็นช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม จากเดิมจะเดินทางไปภายในเดือนนี้
นายวันจักร์ บุรณศิริ กรรมการและประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ SIRI กล่าวว่า ตลาดรวมที่อยู่อาศัยในปี 54 จะเปิด 5-10% แต่ในส่วนของบริษัทจะเติบโตมากกว่า ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ 12% เป็นอันดับที่ 2