ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่รัฐมินเนโซตาเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่พุ่งขึ้นคาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่จะแถลงมาตรการสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาไทย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 119.05 จุด หรือ 1.04% ปิดที่ 11,295.81 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 12.72 จุด หรือ 1.06% ปิดที่ 1,185.90 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 19.80 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 2,529.14 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 4 ต่อ 1
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่เบอร์นันเก้ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจ ที่รัฐมินเนโซตาเมื่อวานนี้ โดยเบอร์นันเก้กล่าวเพียงว่า เฟดจะทำทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เบอร์นันเก้ยังกล่าวด้วยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) จะพิจารณาการใช้มาตรการในกรอบกว้างๆ ในที่ประชุมเฟดครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ แต่เบอร์นันเก้ไม่ได้ระบุว่าจะใช้มาตรการใดอย่างเฉพาะเจาะจง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนผิดหวังอย่างมาก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงาน หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 414,000 ราย จากสัปดาหก่อนหน้านั้นที่ระดับ 412,000 ราย ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีทคาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 405,000 ราย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจส่งผลให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำให้ราคาพันธบัตรสูงขึ้น และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.99% เมื่อวานนี้ จากระดับ 3%
หุ้นซิสโค ซิสเต็มส์ ดิ่งลง 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ร่วงลง 3.8% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3% หุ้นโบอิ้ง โค ดิ่งลง 3.2% หุ้นดูปองท์ร่วงลง 2.2%
ส่วนหุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 6.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันพุธ หลังจากบริษัทเธิร์ดพอยท์เข้าซื้อหุ้น 5.2% ในยาฮู พร้อมกับเรียกร้องให้ยาฮูปรับเปลี่ยนคณะผู้บริหาร แม้ยาฮูได้ประกาศปลดแครอล บาร์ตซ์ ออกจากตำแหน่งซีอีโอไปแล้วก็ตาม
นักลงทุนจับตาดูการแถลงนโยบายสร้างงานของโอบามาซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นคาดว่าโอบามาจะประกาศมาตรการสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมถึงการลดหย่อนภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับภาคธุรกิจ การลงทุนด้านสาธารณูปโภค การให้ความช่วยเหลือพิเศษแก่พนักงานที่ถูกยกเลิกสัญญาจ้างงาน และเดินหน้าผ่อนปรนภาษีให้กับพนักงานในกลุ่มชนชั้นกลาง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.ค.ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งจะเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.ค. หลังเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนมิ.ย.