บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯเน้น"เก็งกำไร"หุ้นธนาคารทหารไทย(TMB) เนื่องจากท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธ.พ.ในสหรัฐฯ และยุโรปที่อ่อนแอลง โดยเฉพาะธ.พ.ยุโรปที่เข้าไปลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่อาจมีความเป็นไปได้ที่จะผิดนัดชำระหนี้สูง ในขณะที่งบการเงินของธ.พ.ยุโรปบ่งบอกถึงความอ่อนแอมาก เนื่องจากมีสัดส่วนสินทรัพย์ต่อทุนสูงมาก ซึ่งหมายความว่า ธ.พ.ยุโรปพึ่งพาการกู้ยืม (Liabilities) เป็นจำนวนมากจนในที่สุดอาจหนีไม่พ้นการเพิ่มทุนในอนาคต ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อการลงทุนของธ.พ.ในประเทศอื่น ๆ ที่อาจจะต้องตัดขายธุรกิจ เพื่อลดขนาดกิจการลง(Downsizing) เพื่อที่จะนำเงินที่ได้จากการขายธุรกิจไปใช้เพิ่มทุน
ดังนั้นธ.พ.ในไทยที่มีผู้ถือหุ้นเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ หรือยุโรปก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่จะถูกขายหุ้นออกมา ซึ่งรวมถึง TMB (ถือหุ้นโดย ING) และ BAY (ถือหุ้นโดย GE) โดยผู้ที่สนใจจะซื้อหุ้นกลุ่มใหม่น่าจะเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในจีนหรือมาเลเซียตามที่เคยเป็นข่าวมา และมีความเป็นไปได้เพราะสถาบันการเงินในเอเซียยังมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากกว่า มีการพึ่งพาแหล่งเงินกู้ยืมที่น้อยกว่าธ.พ.ในสหรัฐฯ หรือยุโรป
ทั้งนี้ มองว่า TMB เป็นหุ้นที่สามารถเก็งกำไรในประเด็นดังกล่าวได้มากกว่าธนาคารอื่น เนื่องจาก TMB เป็นหุ้น Turnaround ที่ผลการดำเนินงานเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2553 โดยปี 2554 คาด EPS จะเติบโตต่อเนื่องถึง 34% YoY อีกทั้งธนาคารฯ มีพัฒนาการเชิงบวกในด้านการปรับปรุงสาขา ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และการให้บริการ ในขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดย NPL/Total loan ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4% ใน 2Q54 จากระดับเกือบ 7% ใน 2Q53
รวมทั้ง ราคาหุ้น TMB ที่ปรับตัวลดลงมามากกว่า SETBANK จึงทำให้มี Downside Risk ที่ต่ำกว่า จึงน่าจะเก็งกำไรได้
วานนี้(13 ก.ย.)หุ้น TMB ปิดที่ 1.71 บาท ลดลง 0.04 บาท(-2.29%)