ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์พุ่ง 140.88 จุดหลังเยอรมนี-ฝรั่งเศสหนุนกรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 15, 2011 06:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) หลังจากนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้แสดงความเชื่อมั่นในอนาคตของกรีซว่าจะยังสามารถรวมกลุ่มเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไปได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าสองผู้นำของชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยุโรปจะช่วยเหลือกรีซให้สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 140.88 จุด หรือ 1.27% ปิดที่ 11,246.73 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 15.81 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 1,188.68 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 40.40 จุด หรือ 1.60% ปิดที่ 2,572.55 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นทันที่นายกรัฐมนตรีแมร์เคลของเยอรมนี และประธานาธิบดีซาร์โกซีของฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า กรีซมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไป พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นในอนาคตของกรีซ ขณะที่นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการลดยอดขาดดุลงบประมาณตามข้อตกลงที่ให้ไว้

นักวิเคราะห์จากร็อคเวลล์ โกลบอล แคปิตอลกล่าวว่า นักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากที่ผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสได้แสดงความเป็นมิตรและยอมรับกรีซในฐานะสมาชิกยูโรโซน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้นำทั้งสองได้ออกมาคัดค้านโดยตลอดว่ากรีซไม่ควรได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินเพราะจะเป็นเยี่ยงอย่างแก่ประเทศอื่นๆในยูโรโซนที่ไม่มีวินัยด้านการคลัง นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ผู้นำยุโรปจะช่วยเหลือกรีซให้สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้ปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำยุโรปดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ยุโรป ซึ่งไกธ์เนอร์เชื่อมั่นว่า ยุโรปมีความสามารถทางการเงินและเศรษฐกิจที่จะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายปลีกของสหรัฐไม่มีการขยายตัวในเดือนส.ค. หลังจากที่ขยายตัว 0.3% ในเดือนก.ค. ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดในเดือนก.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ทรงตัวในเดือนส.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค.

หุ้นคอนอะกรา ฟู๊ดส์ อิงค์ ร่วงลง 2% หลังจากมีรายงานว่าคอนอะกราจะถอนตัวออกจากการเสนอซื้อกิจการบริษัท ราลคอร์ป โฮลดิ้งส์ ขณะที่ข่าวดังกล่าวฉุดหุ้นราลคอร์ปร่วงลง 7%

หุ้นเดลล์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ พุ่งขึ้น 3% หลังจากมีข่าวว่าเดลล์จะเพิ่มวงเงินอีก 5 พันล้านดอลลาร์ในโครงการซื้อคืนหุ้น ส่วนหุ้นสแตปเพิลส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 3% จากข่าวที่ว่าบริษัทเตรียมซื้อคืนหุ้นมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนส.ค. ส่วนวันศุกร์ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ย.ของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ