นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ผู้อำนวยการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) กล่าวว่า บริษัทได้มีการยื่นไฟลิ่ง ขอจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อขายหน่วยลงทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุน ประชาชน ลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทสโก้ฯ
เบื้องต้นจะนำศูนย์การค้า 15 แห่ง ในทำเลดีเข้าจัดตั้งกองทุนฯ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุนได้ภายในไตรมาส 4/54 นอกจากนี้ยยังมีเป้าหมายที่จะนำศูนย์การค้าเพิ่มเข้าในกองทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี
สัดส่วนการขายหน่วยลงทุน ตามกฎ ก.ล.ต.จะเสนอขายแก่นักลงทุนรายย่อย 50% เทสโก้ฯ เข้าถือหน่วยลงทุน 33% ส่วนที่เหลือขายให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ โดยแต่งตั้ง บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาการเงิน และเสนอขายหน่วยลงทุน และ บลจ.กรุงไทย เป็นบริษัทจัดการกองทุน อย่างไรก็ตาม กองทุนนี้ ไม่มีการรับประกันผลตอบแทน และไม่มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุน
สำหรับเงินที่ระดมได้จากการขายกองทุนดังกล่าว จะนำมาใช้ในการปรับปรุงระบบกระจายสินค้า ขยายสาขาใหม่ และปรับปรุงสาขาเดิม โดยใช้เงินลงทุนอย่างน้อย 7 พันล้านบาท/ปี และมองว่าหลังมีการลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบต่างๆ แล้ว จะทำให้กองทุนมีการเติบโตต่อเนื่องในระยะยยาว และมีเงินหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จุดเด่นของกองทุนฯ ประกอบด้วย การสร้างกำไรจกการเติบโตของเศรษฐกิจไทย การมีศูนย์การค้าที่มีคุณภาพสูง ทำเลเยี่ยม ความมีชื่อเสียง แบรนด์ที่แข็งแกร่งของเทสโก้ฯ การมีรายได้ที่มั่นคงของผู้เช่าพื้นที่ และเทสโก้ฯ การมีทีมผู้บริหารชาวไทยที่มีประสบการณ์สูง และความมีศักยภาพการเติบโตและเพ่มทรัพย์สินของกองทุน
นายคริสโตเฟอร์ บุช ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า การที่บริษัทเลือกจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เลือกที่จะนำบริษัทกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากมองว่าการตั้งกองทุนรวมอสังหาฯ เป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และต้องการให้ทรัพย์สินที่มีอยู่ สร้างมูลค่าสูงสุด
"การต้งกองทุนนี้เป็นความมุ่งมั่น และความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย และการลงทุนของบริษัทที่ผ่านมามาจากผลกำไรของบริษัท" นาย บุช กล่าว
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า การที่ เทสโก้ โลตัสในไทยประกาศแผนตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาทเป็นเรื่องที่ดีมากต่อตลาดทุนไทย เพราะเป็นเรื่องที่ตลาดพยายามให้การสนับสนุนมาโดยตลอด เพราะเป็นสิ่งที่นักลงทุนไทยมีโอกาสและมีส่วนร่วมในการขยายกิจการบริษัทขนาดใหญ่
"ถ้ามูลค่าขนาดนี้เป็นกองทุนที่ใหญ่กองหนึ่งถ้า IPO ก็ถือว่าเป็นกองทุนที่ใหญ่สุด และเป็นธุรกิจที่ดี เป็น timing ที่เหมาะสม นักลงทุนสามารถชิพจากเงินฝากมาลงทุนในพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์ ขณะที่ภาคเอกชนก็เอาเงินไปขยายสาขาได้มากขึ้น และเมื่อเป็นกองทุนพร็อพฯแล้วก็สามารถเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้" นายจรัมพร กล่าว
นอกจากนี้ สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์หวังให้เกิดขึ้นต่อไป คือการจัดตั้ง Infrastructure Fund , Energy Fund ซึ่งหากเกิดขึ้นได้จะเป็นแนวทางการลดภาระงบประมาณของรัฐบาล โดยที่ผู้ลงทุนจะได้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลและดอกเบี้ย ยิ่งมีความจำเป็นมากขึ้นถ้ามีโครงการรัฐวิสาหกิจมากขึ้น
ส่วนสถานการณ์อิตาลีต้องรอดูการออกมาตรการแก้ไข ส่วนผลกระทบหากปัญหายืดเยื้อไม่รู้จบ คงต้องถือเป็นความเสี่ยง ก็คงต้องมีมาตรการออกมา