ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงเช้านี้ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญกับภาวะขาลง และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,643.02 จุด ลดลง 98.14 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,296.80 จุด ลดลง 527.37 จุด ขณะที่ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,419.49 จุด ลดลง 116.39 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,807.24 จุด ลดลง 47.04 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,413.05 จุด ลดลง 5.99 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,044.60 จุด ลดลง 27.20 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,748.70 จุด ลดลง 43.09 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1.7% เมื่อเวลา 9.21 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
หุ้นกลุ่มการเงินในตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงหนักที่สุด เนื่องจากความหวั่นวิตกที่ว่า มาตรการ Operation Twist ของเฟดจะทำให้สัดส่วนกำไรของธนาคารต่างๆลดลง ขณะที่เงินวอนดิ่งลง 2.3% เมื่อเทียบดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของแบงก์ ออฟ อเมริกา และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 0.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 6.2% และหุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 3.1%
ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดันหลังจากเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างเชื่องช้า และมีความเสี่ยงหลายด้านที่จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งรวมถึงภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่ามาตรการ Operation Twist ของเฟดจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐได้
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (21 ก.ย.) และประกาศใช้มาตรการ Operation Twist ด้วยการใช้เงินมูลค่า 4 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุการไถ่ถอน 6-30 ปี พร้อมกับขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า ในวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์เท่ากัน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิ.ย. 2555 โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม