นายทรงวุฒิ อภิรักษ์ขิต กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท(GBX)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทรับผลพลอยได้จากธุรกิจค้าทองคำช่วงไตรมาส 3/54 ที่ดีทั้งอุตสาหกรรม ทำให้มีความเชื่อมั่นว่ายอดขายทองคำของบริษัทในปี 54 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,000 ล้านบาท/เดือน เป้าทั้งปี 12,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดขายทองคำประมาณ 10,000 ล้านบาท
"ธุรกิจทองคำของบริษัทฯถือว่าดีในไตรมาส 3/54 แต่ก็ไม่ได้ถือว่าดีที่สุดในอุตสาหกรรม เพราะมีพวกร้านค้าทองคำที่มีหน้าร้าน retail แต่ที่ว่าดีมันดีทั้งอุตสาหกรรมเลย ผมก็ได้รับผลพลอยได้มาด้วย ส่วนเป้าหมายยอดขายทองคำของบริษัทฯตั้งไว้ที่ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ไม่ได้พูดถึงรายได้รวม ที่ผ่านมาก็ทำได้ตามเป้าหมายไม่ได้มีปัญหาอะไร ไตรมาส 3/54 ก็ทำได้ตามเป้าหมาย ซึ่งทำได้ตามเป้าเราก็ happy แล้ว เพราะปีที่แล้ว(2553)ทั้งปี เราทำยอดขายได้ 10,000 ล้านบาท ถ้าตรงตามเป้าของปีนี้ก็จะได้ 12,000 ล้านบาท ถ้าเกินมาก็อาจจะเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ว่าผู้ค้าทองคำรายใหญ่ในตลาด เขาใหญ่กว่าผมมาก พวกแม่ทองสุข, YLG โดยเฉพาะฮั่วเซ็งเฮง ที่มีส่วนแบ่งตลาดถึง 80% ของทองคำในตลาดไทย ใหญ่ที่สุด ของผมไม่ใหญ่เท่าไร แม้จะติด TOP 10 แต่ก็อยู่ระดับท้าย ๆ"นายทรงวุฒิ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวว่า แนวโน้มยอดขายทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้(ก.ย.-ธ.ค.)ถ้าธุรกิจค้าทองคำมีความผันผวนเหมือนเช่นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก็อาจจะทำยอดขายได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ แต่ตอนนี้หวังแค่ทำได้ตามเป้าหมายก็เพียงพอแล้ว
"ของผมช่วงกลางปีจะซบเซาไปหน่อยหนึ่ง แต่พอเดือนที่แล้ว(ส.ค.)มันดี ทำให้กลบความซบเซาไปได้นิดหนึ่ง ถ้าแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีนี้ ดีเหมือนเดือนที่แล้วอีก ก็จะ meet target ถ้า 4 เดือนหลัง(ก.ย.-ธ.ค.)เหมือนเดือน 8(ส.ค.)ที่ผ่านมาคือขึ้น/ลงผันผวนมาก มันจะทำให้เกิดวอลุ่มกับผม ไม่ว่าจะฝั่งซื้อหรือฝั่งขาย ถ้าผันผวนมากปุ๊บ ผมจะสามารถทำยอดขายได้เกินเป้า แต่ ณ ตอนนี้ก็หวังได้แค่ทำได้ตามเป้าหมาย"กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าว
*เจอ Double Surprise จากธุรกิจหลักทรัพย์ที่ยังดี-ธุรกิจค้าทองคึกคัก
นายทรงวุฒิ กล่าวต่อว่า ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ภายหลังจากที่ทีมมาร์เก็ตติ้งส่วนหนึ่งได้ลาออกไป ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ลดลงเหลือเฉลี่ย 1.75% จากเดิม 2.5% แม้รายได้ของบริษัทจะลดลง แต่รายจ่ายลดลงไปมากกว่า และภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ก็ยังอยู่ในทิศทางที่เดินหน้าต่อไปได้ดี ขณะที่ธุรกิจค้าทองคำก็คึกคักด้วย จึงทำให้กลายเป็น Double Surprise สำหรับบริษัทฯ
"ภาพ ณ ตอนนี้ธุรกิจหลักทรัพย์ หลังจากที่มีมาร์เก็ตติ้งบางส่วนจากไป ทำให้มาร์เก็ตแชร์ของเราลดลงนิดหน่อย เหลือตอนนี้ประมาณเฉลี่ย 1.75% จากเดิมที่มี 2.5% แต่บางวันดี ๆ ก็ได้ 2% แล้วแต่วัน ซึ่งเหตุที่ทำให้กำไรของบริษัทฯเพิ่มขึ้น เพราะตัวที่ออกไปเป็นตัวบิ๊ก ๆ เขาได้ intensive ได้ cost ในส่วน Fix เยอะกว่าคนอื่น
รายรับของบริษัทฯลดลงจริง แต่รายจ่ายของบริษัทลดลงมากกว่า เพราะฉะนั้นธุรกิจหลักทรัพย์ของผมจึงสบายไม่มีปัญหาครับ แล้วดูจากเดือน 8 คาดว่ารายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์สามารถยืนอยู่ได้ หลังจากที่มาร์เก็ตติ้งทีมหนึ่งได้ออกไป แล้วตัวโฮลดิ้งก็สามารถยืนได้ด้วยตัวเองด้วย เพราะว่าทองมันมา ก็เลยกลายเป็น Double Surprise สำหรับเราเหมือนกัน"นายทรงวุฒิ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวต่อว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทฯที่มาจากธุรกิจหลักทรัพย์ ณ ตอนนี้น่าจะมีสัดส่วน 75% จากเดิมประมาณ 80% ขณะที่ธุรกิจค้าทองคำสัดส่วนรายได้ ณ ตอนนี้ก็น่าจะอยู่ประมาณ 25% สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย ทั้งนี้ปีที่แล้ว(2553)รายได้รวมของบริษัทฯ 9,387 ล้านบาท ปีนี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 10% คาดว่าจะมีรายได้จากทองเพิ่มขึ้น แต่ยังต้องรอดูอีก 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ก่อน ดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
*เป็นรายเดียวที่ให้ลูกค้าเล่นทองคำทำ"Full Arbitrage"
กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าวอีกว่า ปัจจุบันบริษัทฯเป็นรายเดียวที่สามารถให้ลูกค้าทำ full arbitrage ได้ในการเทรดทองคำ ซึ่งเป็นการทำอย่างถูกต้องและไม่ผิดกฎแต่อย่างใด ซึ่งยอดขายของบริษัทฯในเดือนที่แล้ว(ส.ค.)ที่ราคาทองมีความผันผวนมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลของการทำ arbitrage ซึ่งไม่ได้มาจากนักลงทุนที่เทรดทองคำโดยเฉพาะเพียงอย่างเดียว ดังนั้นจึงทำให้ยอดขายของบริษัทฯสามารถทำได้ตามเป้าหมาย
"ผมเป็นโบรกฯเดียวที่สามารถให้ลูกค้าที่เล่นทองสามารถทำ full arbitrage ได้ ซึ่งไม่ผิดกฎ วิธีการก็คือสมมติลูกค้าเล่นทองด้วยการทำ short future อยู่ แต่ลูกค้ากลัวว่าจะขึ้นต่อ วิธีการก็คือ ด้วยราคาตอนที่เขา short มันเป็น Future ที่โก่งตัวสูงกว่าราคาทองคำจริง เหตุที่เขาทำ short ก็เป็นเพราะเขาเห็นว่าราคา future มันแพงเกินไป เขาถึงได้ทำ short แต่วิธีที่จะปิดความเสี่ยงของเขาคือ การเข้ามาซื้อทองคำกับผมในจำนวนที่เท่ากัน ซึ่งลูกค้าก็จะได้มีทองจริงด้วยในขา long ซึ่งถ้าราคาทองมันขึ้นลูกค้าก็จะเสียในขา short ใน future แต่จะได้ในส่วนของราคาทองคำจริง ๆ ที่มันขึ้นมา แต่ถ้าราคามันลง การเล่นใน future ก็ได้ ขณะที่ราคาทองจริงก็จะลดลงไปแค่เล็กน้อย ถัวกันไปถัวกันมาบริษัทฯก็จะได้รับสเปรดตรงนี้ เพราะในวันสุดท้ายราคา future และราคาทองจริงควรจะเท่ากัน ลูกค้าก็จะได้สเปรดเป็นผลกำไรเลย
จังหวะหนึ่งในตลาดไทยสามารถทำกำไรได้ประมาณ 10 กว่าเปอร์เซนต์ถึง 20 เปอร์เซนต์ต่อปีเลย เพราะว่าด้วยความที่คนไปทำ long กันมาก แล้วทำให้ราคาทองใน future สูงเกินจริง แล้วผมเป็นเจ้าเดียวที่เป็น Fully Broker ที่มีบริษัทลูกเป็นหน้านายขาย future แล้วตัวโฮลดิ้งผมก็ขายทอง ก็เลยจับ match ได้เลย ไม่มีปัญหา แล้วลูกค้าผมก็จับ match อย่างนี้เยอะมากในเดือนที่แล้ว(ส.ค.)"กรรมการผู้จัดการ GBX กล่าว
*กำลังเตรียมความพร้อมด้าน IT หวังสู้ศึกเปิดเสรีโบรกฯปีหน้า
นายทรงวุฒิ กล่าวว่า การเปิดเสรีโบรกเกอร์ในปีหน้า(2555)ในตอนนี้บริษัทฯก็มีการเตรียมความพร้อมในการศึกษาด้าน IT ที่จะทำให้ระบบมีความพร้อมมากขึ้น ในการแข่งขันในปีหน้า ตอนนี้ก็พยายามดำเนินการอยู่
"ส่วนการหาพันธมิตร Strategic Partner ก็ยังคงเปิดทางอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยอะไรกับใคร ซึ่งตรงไหนที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจหลักทรัพย์ ผมก็จะเพิ่มธุรกิจ ดูความเป็นไปได้แล้วดูว่าพอจะมีแนวโน้มทำได้ ก็จะร่วมมือกัน"นายทรงวุฒิ กล่าว