DRT คงเป้ารายได้ปี 54 โต 10%มาที่ 3.6 พันลบ, กำไรทรงตัวจากปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 22, 2011 13:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร(DRT) คาดว่ายอดขายในครึ่งปีหลังน่าจะชะลอตัวจากครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนและปีนี้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ แต่ทั้งปีบริษัทยังคงคาดว่ารายได้หรือยอดขายจะโตตามเป้าหมายที่เติบโต 10% จากปีก่อน หรือเป็น 3.6 พันล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 1.9 พันล้านบาท ในส่วนกำไรสุทธิน่าจะเท่ากับปีก่อน เพราะปีนี้บริษัทกลับมาจ่ายภาษีเงินได้เต็ม 30%

ทั้งนี้เหตุผลยอดขายในไตรมารส 3/54 ชะลอตัวนอกเหนือจากอยุ่ในช่วงฤดูฝนแล้ว ยังมีปัจจัยมาจากการที่รัฐบาลได้ขอความร่วมมือขอให้ลดราคากระเบื้องมุงหลังคาลงแผ่นละ 5 บาท โดยเฉลี่ยลดลง 3-5% ซึ่งเริ่มตั้งแต่ ส.ค. เป็นต้นมา

ส่วนไตรมาส 4/54 นายสาธิต คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวจากไตรมาส 3/54 เนื่องจากจะมีการซ่อมแซมบ้านหลังผ่านพ้นภาวะน้ำท่วม แต่ขึ้นกับว่าปัญหาน้ำท่วมจะคลี่คลายภายในเดือน ต.ค. เหมือนทุกปีที่ผ่านมาหรือไม่ เพราะปีนี้ยังประเมินยาก บางกระแสมองว่าภาวะน้ำท่วมยังมีอีกระลอกก่อนสิ้นปีนี้ และบริษัทยังมีปัญหาการขนส่งสินค้าเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วม อย่างไรก็ดี ราคาปูน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักยังไม่ขยับทำให้ไม่กดด้นเกินไป

ล่าวุด บริษัทได้ร่วมกับพันธมิตร บริษัท แฮดเลย์ ผู้ผลิตสินค้าจากเหล็กรีดเย็นจากอังกฤษได้พัฒนาระบบผนังสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ "ไดมอนด์ วอลล์"ซึ่งเป็นการก่อสร้างรูปแบบใหม่นำเอาผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ดแบรนด์ของไดมอนด์ มาประกอบกับอุปกรณ์ติดตั้งโครงผนังที่ได้รับการออกแบบจากแฮดเลย์เพื่อก่อสร้างผนังทึบในอาคารสูงสามารถทดแทนการก่ออิฐฉาบปูน

ขณะนี้ บริษัทได้เตรียมกำลังการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ ในสายการผลิต NP-10 ที่มีกำลังการผลิตถึง 72,000 ตัน ที่จะเดินเครื่องภายในไตรมาส 2/55 เพื่อรองรับความต้องการสินค้าดังกล่าว ซึ่งจะทำให้กำลังผลิตรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 7.52 แสนตัน/ปี ในปี 55 จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต 6.8 แสนตัน/ปี

บริษัทวางเป้ายอดขายในปี 55 (ปีแรกเปิดขาย)สำหรับสินค้าใหม่ คือ ไฟเบอร์ซีเมนต์บอร์ด จำนวนกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนรายได้จากผนังเพิ่มขึ้น จากปัจจุบัน สัดส่วนรายได้กระเบื้องมุงหลังคามากถึง 80% และรายได้จากผนัง 20% แต่คาดว่าใน 3-5 ปีข้างหน้า จะปรับสัดส่วนรายได้จากยอดขายกระเบื้องมุงหลังคาเป็น 60% และปรับขึ้นรายได้จากผนังเป็น 40%

นายสาธิต เชื่อว่าสินค้าใหม่ดังกล่าวจะได้รับความนิยม โดยบริษักำลังเจรจาและเสนอสินค้าใหม่กับลูกค้าเดิม ได้แก่ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) และ บมจ.แสนสิริ (SIRI)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ