ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (22 ส.ค.) โดยดัชนีนิกเกอิดิ่งลงกว่า 2% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเผชิญกับภาวะขาลง โดยเฟดแสดงความคิดเห็นดังกล่าวภายหลังการประชุมระยะเวลา 2 วัน ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 180.90 จุด หรือ 2.07% ปิดที่ 8,560.26 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหนักสุดในวันนี้ ตามด้วยกลุ่มหลักทรัพย์ และกลุ่มสารสนเทศ ส่วนหุ้นกลุ่มประมงและป่าไม้ กลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ และกลุ่มขนส่งทางบก ปรับตัวสูงขึ้น
โบรกเกอร์กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวซบเซาลงอย่างมาก หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า มีความเสี่ยงอย่างมากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวรวมถึงภาวะตึงตัวที่เกิดขึ้นในตลาดการเงินทั่วโลก
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากคณะกรรมการเฟดตัดสินใจใช้มาตรการ Operation Twist ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุการไถ่ถอน 6-30 ปีวงเงินรวม 4 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมกับขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า ในวงเงินที่เท่ากัน แต่นักลงทุนมองว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
ตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงต่อเนื่องจนถึงช่วงบ่าย เพราะได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียที่ดิ่งลงถ้วนหน้าในระหว่างวัน โดยดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลงกว่า 3% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลงกว่า 4% และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นอินโดนีเซียร่วงลงกว่า 6%