นายชูรัชฏ์ ชาครกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด 2 บมจ.ลลิล พร๊อพเพอร์ตี้ (LALIN)เปิดเผยว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการเป็นบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม มูลค่ารวม 1.5 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม ประมาณ 500 ล้านบาท และ โครงการบ้านเดี่ยว ประมาณ 800 - 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมได้ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ในสัปดาห์หน้า
สำหรับมาตรการภาครัฐ"บ้านหลังแรก" นายชูรัชฏ์ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัท เนื่องจากโครงการประมาณ 80-90% ของบริษัท มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และมาตรการดังกล่าวมีอายุถึงสิ้นปี 55 ฉะนั้นการผลักดันแรงซื้อน่าจะค่อยเป็นค่อยไป เมื่อเทียบกับนโยบายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าปีนี้มีรายได้ 2 พันล้านบาท โดยรายได้สัดส่วนถึง 50% มาจากโครงการที่ใช้แบรนด์ Lanceo และ Lio จะเป็นแบรนด์ที่มีรายได้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ในปีหน้าคาดว่าสัดส่วนรายได้จาก 2 แบรนด์ดังกล่าวจะเพิ่มเป็นประมาณ 60%
ปัจจุบันโครงการ 2 แบรนด์มีอยู่รวมกัน 10 โครงการ ราคาต่อยูนิตไม่เกิน 4 ล้านบาท โดยโครงการแบรนด์ Lanceo และ Lio จะจับกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 25-38 ปี
ทั้งนี้ โครงการ Lanceo รามคำแหง-วงแหวน มีจำนวน 214 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท บริษัทได้เปิดตัวมาประมาณ 1 เดือน มียอดขายแล้ว 50-60% ของเฟสแรกที่มี 100 ยูนิต ซึ่งคาดว่าทั้งโครงการจะขายได้หมดภายใน 2 ปี
ส่วนการปรับราคาขาย ที่ผ่านมาได้ปรับตามต้นทุนวัสุดก่อสร้าง เฉลี่ย 5-8% ซึ่งแต่ละโครงการปรับขึ้นไม่เท่ากัน