ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนตัวลงวันนี้ หลังเฟดเตือนศก.เสี่ยงขาลง-มูดีส์ลดเครดิต 3 แบงก์

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 22, 2011 15:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐได้ส่งสัญญาณว่า เศรษฐกิจเสี่ยงที่จะเผชิญกับขาลง และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 3 แห่งของสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 2.4% แตะ 219.89 จุด เมื่อเวลา 8.03 น.ตามเวลาท้องถิ่นในลอนดอน

หุ้นโลจิเทค อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วง 11% หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ผลการดำเนินงานเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ส่วนหุ้นกลุ่มแบงก์ร่วงลงหลังจากที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอินเทซ่า ซานเปาโล เอสพีเอ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของอิตาลี และวาณิชธนกิจ เมดิโอบังกา เอสพีเอ ลง

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 3 ให้ใช้มาตรการ Operation Twist ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เฟดเชื่อมั่นว่ามีประสิทธิภาพ พร้อมกับยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556

แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดระบุว่า "มาตรการ Operation Twist จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง และจะช่วยให้สภาวะด้านการเงินมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยคณะกรรมการเฟดจะดำเนินทบทวนทั้งในเรื่องของขนาดและองค์ประกอบของการถือครองพันธบัตรเป็นระยะๆ และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม"

เฟดระบุว่า "จากข้อมูลที่รวบรวมได้นับตั้งแต่การประชุมครั้งก่อนในเดือนส.ค.พบว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างเชื่องช้า แลมีความเสี่ยงหลายด้านที่จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวนั้นรวมถึงภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลก ส่วนตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอ และอัตราว่างงานอยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งนี้ แม้เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ แบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก แอนด์โค และซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจจะไม่สนับสนุนธนาคารรายใหญ่ภายในประเทศ หากธนาคารเหล่านี้เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ