ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่ามีความเสี่ยงอย่างมากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับช่วงขาลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารรายใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 4.6% ปิดที่ 214.89 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีร่วงลง 269.59 จุด หรือ 4.96% ปิดที่ 5,164.21 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดิ่งลง 154.14 จุด หรือ 5.25% ปิดที่ 2,781.68 จุด และดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 246.8 จุด หรือ 4.7% ปิดที่ 5,041.61 จุด
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเต็มไปด้วยความผันผวนและตื่นตระหนก หลังจากเฟดระบุในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมครั้งล่าสุดว่า "มีความเสี่ยงอย่างมากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับภาวะขาลง ซึ่งความเสี่ยงเหล่านั้นรวมถึงความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก"
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ประกาศใช้มาตรการ Operation Twist หรือการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 6-30 ปีวงเงิน 4 แสนล้านดอลลาร์และขายพันธบัตรอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่าออกมาในเวลาเดียวกันและในวงเงินที่เท่ากัน โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลง และกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ไหลเวียนดีขึ้น
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของแบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก แอนด์โค และซิตี้กรุ๊ป อิงค์ เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจไม่ให้ความช่วยเหลือธนาคารรายใหญ่หากเกิดวิกฤตการณ์การเงิน
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปร่วงลง โดยหุ้นลอยด์ แบงกิง กรุ๊ป ร่วงลง 10% และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) ดิ่งลง 5.7% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ดิ่งลง 5.7% หุ้นโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ดิ่งลง 9.6%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายมิเชล บาร์นิเยร์ คณะกรรมาธิการด้านตลาดระหว่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Le Figaro ของฝรั่งเศสว่า มีธนาคารบางแห่งของยุโรปที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือด้านเงินทุนจากรัฐบาล
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหนักขึ้นเมื่อนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และนายโรเบิร์ต โซลิก ประธานธนาคารกลางโลกกล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ระยะที่เป็นอันตรายแล้ว และประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมหนี้สินในประเทศของตนเอง"
หุ้นโลจิเทค อินเตอร์เนชันแนล ผู้ผลิตเมาส์สำหรับคอมพิเวอร์ ร่วงลง 12% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
หุ้นแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ อองเนสซี หลุยส์ วิตตอง ผู้จำหน่ายสินค้าหรูหราอย่างกระเป๋า Celine และนาฬิกา TAG Heuer ร่วงลง 6.1% ขณะที่หุ้นหุ้นเบอร์เบอรี ผู้จำหน่ายสินค้าหรูหรารายใหญ่สุดของอังกฤษ ร่วงลง 9.8%