ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อเก็งกำไรหนุนดาวโจนส์ปิดบวก 37.65 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday September 24, 2011 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นกลุ่มที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อ 2 วันก่อน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซและยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังแทบจะไม่มีปฏิกริยาต่อแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุม G20 ที่จะใช้มาตรการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 37.65 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 10,771.48 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 6.87 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 1,136.43 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 27.56 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 2,483.23 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 5.1 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1

ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก หลังจากมีรายงานข่าวว่า นายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รมว.คลังกรีซยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ถึง 50% ที่ 1 ใน 3 แนวทางการแก้ปัญหาของกรีซจะใช้วิธี "haircut" หรือการปรับลดมูลค่าหลักทรัพย์ที่นำมาใช้ค้ำประกันการกู้ยืมสำหรับผู้ที่ถือพันธบัตรของกรีซ ซึ่งโดยหลักการแล้ว การดำเนินการดังกล่าวก็เท่ากับว่ากรีซเข้าข่ายผิดนัดชำระหนี้ในลักษณะที่สามารถจัดการได้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อเงินฝากระยะยาวและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารกรีซ 8 แห่ง ลง 2 ขั้น โดยให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือของเงินฝากระยะยาวและหุ้นกู้ของแบงก์ทั้งหมดนี้เป็นเชิงลบ

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเริ่มดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วง 2 วันก่อน ซึ่งช่วยพยุงดัชนีดาวโจนส์และดัชนีหลักๆให้สามารถปิดในแดนบวกได้เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีความผันผวน CBOE ซึ่งเป็นดัชนีวัดกระแสความวิตกกังวลในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซและยูโรโซน โดยนักลงทุนจับตาดูว่ากรีซจะได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดต่อไปหรือไม่ หลังจากเจ้าหน้าที่ของสหภาพอียู (อียู) กล่าวว่า อียูจะทบทวนแนวโน้มเศรษฐกิจของกรีซอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องการอนุมัติเงินเบิกจ่ายงวดต่อไป

ทั้งนี้ หากกรีซไม่ได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดต่อไปก็จะทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ในเร็วๆนี้ และจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อธนาคารพาณิชย์ในยุโรปที่ถือครองพันธบัตรกรีซอยู่เป็นจำนวนมาก

สตีฟ กุลโฟยิล เทรดเดอร์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะไม่มาตรการที่สามารถป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ นอกจากนี้ นักลงทุนไม่มั่นใจว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เลือกใช้มาตรการ Operation Twist ในการประชุมครั้งล่าสุดนั้น จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ตลาดแทบจะไม่มีปฏิกริยาต่อแถลงการณ์ร่วมของที่ประชุม G20 ที่จะใช้มาตรการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงิน

ทั้งนี้ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาปิดบวก 4.1% เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่หุ้นดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน

ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด (เอชพี) ร่วงลง 2.1% หลังจากคณะกรรมการบริหารของเอชพีได้แต่งตั้งนายเม็ก วิทแมน อดีตซีอีโอของอีเบย์ เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของเอชพี แทนนายลีโอ อโพเธเกอร์ ขณะที่หุ้นอินเทล คอร์ป พุ่งขึ้น 2.5% และหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ดีดตัวขึ้น 1.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ