ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 904.06 จุด ลดลง 54.10 จุด(-5.65%)มูลค่าการซื้อขาย 47,630.63 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 947.53 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 867.86 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 45 หลักทรัพย์ ลดลง 581 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 21 หลักทรัพย์
นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาค โดยปัจจัยลบยังมาจากเรื่องเดิมๆ คือความกังวลเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยนักลงทุนต่างชาติยังขายออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้น
ประกอบกับเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ทำให้นักลงทุนโยกย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นในประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งก็ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น กลุ่มพลังงานซึ่งมีน้ำหนักมากในตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง
ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นในช่วงบ่ายดัชนีฯได้ปรับตัวลงไปแตะจุดต่ำสุดที่กว่า -9% แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีแรงซื้อกลับ หลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นยุโรปบางแห่งเปิดตลาดฯมาเป็นบวก ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ก็เริ่มปรับตัวขึ้น ประกอบกับการที่ตลาดฯปรับตัวลงแรง 3 วันติดต่อกัน จึงทำให้นักลงทุนกลับเข้ามาเก็งกำไรอีกครั้ง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(27 ก.ย.)นายอนุพนธ์ กล่าวว่า ตลาดฯในภาพรวมยังมีความผันผวน และต้องรอติดตามทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ พร้อมให้แนวรับ 868 จุด แนวต้าน 940 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,861.15 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท ลดลง 23.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,135.12 ล้านบาท ปิดที่ 526.00 บาท ลดลง 60.00 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 2,476.39 ล้านบาท ปิดที่ 271.00 บาท ลดลง 13.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,284.95 ล้านบาท ปิดที่ 109.50 บาท ลดลง 6.50 บาท
PTTCH มูลค่าการซื้อขาย 2,201.30 ล้านบาท ปิดที่ 94.50 บาท ลดลง 5.50 บาท