ผศ.สมประวิณ มันประเสริฐ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจและกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การที่ตลาดหุ้นไทยจะร่วงลงแรงในระยะนี้ แต่ปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง แม้เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรปหรือสหรัฐฯคงจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างแน่นอน จึงเชื่อว่าสถานการณ์คงจะไม่แย่เท่ากับปี 51
การเทขายหุ้นในตลาดหุ้นต่าง ๆ ทั่วโลกเชื่อว่าส่วนหนึ่งเกิดจากธนาคารในยุโรปขายหุ้นออกมาแพราะต้องการสภาพคล่อง ซึ่งคล้ายกับปี 51 และมีบางส่วนก็กลับเข้าไปถือเงินดอลลาร์แทน เพื่อเข้าไปเก็งกำไรในตลาดพันธบัตรสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐประกาศชัดเจนว่าจะเข้าซื้อพันธบัตร
"แน่นอนว่า Price(ราคาบอนด์)จะต้องขึ้นระยะยาว ซึ่งก็มีผลทำให้ Yield เปลี่ยนไป และมันก็อาจเป็นผลจากเศรษฐกิจจริง ๆ ที่เกิดขึ้นในยุโรปที่มันค่อนข้างแย่ นักลงทุนก็เลยลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นลงทั่วโลก ซึ่งไทยก็โดนหางเลขไปด้วย"
*หุ้นตก-เงินโยกเข้าดอลลาร์ฯ-เล่นเก็งตลาด Bond
ที่ปรึกษาเศรษฐกิจและกลยุทธ์ กล่าวว่า "การเข้ามาลงทุนในตลาด Bond ผมเชื่อว่าเป็นการเข้ามาเล่นกันที่ price เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯจะเข้าซื้อ Bond จำนวน 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อกด yield ให้ลดลง ตรงนี้จะทำให้คนเข้ามาเล่น price ได้ในลักษณะเก็งกำไรจากส่วนต่างราคา(Capital gain) .....คือเขาได้สองเด้ง อย่าลืมว่าเขาเสียจากมูลค่าหุ้นที่ขายลดลง แต่เขาได้ Capital gain จาก Bond Market และได้ Exchange rate gain ด้วย การซื้อ Bond คงไม่หมดเร็ว ตลาด Bond ยังเล่นได้อยู่ ทำให้ค่าเงินบาทไทยเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯก็อาจจะอ่อนลงไปอีก"
*บาทอ่อนค่าเป็นข่าวดีต่อผู้ส่งออก
"การที่ค่าเงินบาทอ่อนตัวลง ก็เป็นข่าวดีต่อผู้ส่งออก ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกที่ดูจะไม่ค่อยดีนัก ส่วนผลกระทบสุดท้ายก็คงจะมาถึงเรา แต่ก็คงจะช้า เพราะข้อมูลส่งออกล่าสุดของไทยก็ยังออกมาดี การส่งออกยางพาราไปยังจีนก็ทำได้มากขึ้น.... ยังคิดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีอยู่"
*คาดตัวเลข GDP ไทยปีหน้าโต 4.7% ได้ Domestic Demand ช่วยดัน
"ได้ประมาณการตัวเลข GDP ปีหน้า(2555)ไว้ที่ 4.7% เพิ่มขึ้นจากปีนี้(2554)ที่คาดว่า GDP ของไทยจะเติบโต 4% จากข้อมูลรายเดือนในเรื่องตัวเลขการส่งออกก็ดี และ Demand ก็ยังแข็งแกร่ง ตัวเลขมันออกมายังเติบโต สาเหตุที่มองว่าปีหน้า(2555) GDP ไทยเติบโตแข็งแกร่งเป็นผลจาก Domestic Demand ที่น่าจะแข็งแกร่ง จากนโยบายกระตุ้นทั้งหลายของภาครัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งคงจะมีการตอบสนองค่อนข้างเร็ว ผู้บริโภคไทยใช้เงินเร็วและใช้เยอะจึงน่าจะช่วยดึงเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้
ผมว่าปีหน้า(2555)เศรษฐกิจไทยก็ยังไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่อาจจะได้เห็นในปีถัดไป(2556) เพราะปีถัดไป outlook เศรษฐกิจไทยอาจจะไม่ดี ถ้าเศรษฐกิจโลกฟื้นช้า บวกกับหนี้สาธารณะด้วย"