ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงถ้วนหน้าเช้านี้ เนื่องจากที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนยังไม่สามารถสรุปมาตรการคลี่คลายวิกฤตหนี้ยุโรปได้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มส่งออกและแบงก์ร่วงลง
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 8,426.39 จุด ลดลง 119.09 จุด ส่วนดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 16,731.58 จุด ลดลง 90.57 จุด ขณะที่ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,683.94 จุด ลดลง 85.71 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 6,937.24 จุด ลดลง 76.73 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,362.16 จุด ลดลง 5.36 จุด ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 3,891.60 จุด ลดลง 5.40 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,574.68 จุด ลดลง 46.72 จุด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1.6% แตะ 108.37 จุด เมื่อเวลา 101.01 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการในวันนี้ (4 ต.ค.) เนื่องในวันหยุด
หุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ร่วง 2.5% ในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ส่วนหุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ร่วง 4.1% หุ้นมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ร่วง 3.5% ในตลาดหุ้นโตเกียว หุ้นมิตซูบิชิ คอร์ป ดิ่ง 6.7% เนื่องจากราคาน้ำมันและโลหะร่วงลง
สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) หลังจากรัฐบาลกรีซยอมรับว่าอาจจะพลาดเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณทั้งในปีนี้และปีหน้า ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลกรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในกรอบจำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 2.01% ปิดที่ 77.61 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 76.85-79.64 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยุโรป ซึ่งหากสถานการณ์เลวร้ายอย่างต่อเนื่องก็อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวในเอเชียได้