แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า การประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนก่อสร้าง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมการงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ครั้งล่าสุด ได้มีการพิจารณาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณโรงภาษีร้อยชักสาม หรือโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ท ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค (N-PARK) ในฐานะ กลุ่มกิจการร่วมค้า N-PARK บริษัท อามันรีสอร์ท เซอร์วิสเซส ลิมิเต็ด และบริษัท ซิลเวอร์ลิงค์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด
หลังจากกรมได้หารือกับอัยการเกี่ยวกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีความเห็นว่ากิจการร่วมทุนจะต้องดำเนินการตามข้อสัญญาที่ระบุไว้ชัดเจนว่าแต่และฝ่ายมีหน้าที่ใดบ้าง ซึ่งอัยการมีข้อเสนอว่าหากต้องการให้โครงการเดินหน้าต่อไปก็ต้องมีการเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออก และเรื่องดังกล่าวได้มีการรายงาน นายวิรุฬ เตชะไพบูล รมช.คลัง ในฐานะกำกับดูแลกรมธนารักษ์พิจารณาแล้ว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมได้ยื่นหนังสือแจ้งให้บริษัทดำเนินการตามข้อสัญญา และทางบริษัทเองยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อ โดยที่คณะกรรมการประสานงานฯก็ให้โอกาส แต่บริษัทต้องมีการชี้แจงแผนงานกลับมา แต่จนถึงขณะนี้บริษัทก็ยังไม่มีการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว แต่กลับมายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม
"คณะกรรมการก็รายงานรัฐมนตรีตามข้อกฎหมาย ถึงสุดท้ายก็ต้องว่าตามกฎหมาย ใครผิดสัญญาก็ว่ากันไป ถ้า N-PARK เห็นว่าเราผิดก็ฟ้องกรมธนารักษ์ได้ ส่วนธนารักษ์เห็น N-PARK ผิด เราก็ยื่น Notice ไปแล้ว ยื่นไปหลายเดือนแล้ว พอยื่นก็มาร้องขอความเป็นธรรม เราก็ชี้แจงคณะกรรมการว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ข้อกฎหมายเป็นอย่างไร" แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าว
และความล่าช้าของการดำเนินโครงการดังกล่าว และเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อทำให้กรมธนารักษ์สูญเสียโอกาสมาก ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานฯ ครั้งต่อไป ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันเนื่องจากอยู่ระหว่างช่วงเปลี่ยนอธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่ แต่คาดว่าน่าจะมีข้อสรุปชัดเจนเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาในการบริหารพื้นที่โครงการดังกล่าวในไม่ช้านี้ ก่อนเสนอ รมช.คลังพิจารณาต่อไป