ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นคืนนี้เมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกหากจำเป็น และจากข่าวที่ว่ารมว.คลังกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) กำลังหารือกันเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซน เพื่อปกป้องภาคธนาคารจากผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ในยูโรโซน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 153.41 จุด หรือ 1.44% ปิดที่ 10,808.71 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 24.72 จุด หรือ 2.25% ปิดที่ 1,123.95 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 68.99 จุด หรือ 2.95% ปิดที่ 2,404.82 จุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดร่วงลงไปกว่า 200 จุดเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยุโรป แต่ตลาดพลิกกลับมาดีดตัวขึ้นในช่วงบ่ายและสามารถปิดในแดนบวกได้วันแรกในรอบ 3 วันทำการ หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่ารมว.คลังกลุ่มอียูกำลังหารือกันเรื่องการเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซน โดยที่ประชุมมีความเห็นพ้องต้องกันว่า จำเป็นจะต้องใช้มาตรการป้องกันไม่ให้สถาบันการเงินในยูโรโซนได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้สาธารณะ
ตลาดได้แรงหนุนมากขึ้นเมื่อเบอร์นันเก้แถลงต่อคณะกรรมาธิการร่วมด้านเศรษฐกิจของสภาคองเกรสเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า เฟดพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น พร้อมกับแสดงความคิดเห็นว่านโยบายการเงินที่เฟดนำมาใช้ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น ไม่ใช่ "ยาวิเศษ" ที่จะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ในชั่วข้ามคืน หากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงซบเซา อันเนื่องมาจากความกังวลเรื่องหนี้ยุโรป หลังจากที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนซึ่งใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้มีการประกาศมาตรการที่ชัดเจนในเรื่องการควบคุมปัญหาหนี้สาธารณะ โดยที่ประชุมเพียงแต่พิจารณาทบทวนการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินรอบ 2 สำหรับกรีซ
นายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานกลุ่มยูโรกรุ๊ปกล่าวว่า ผู้นำยูโรโซนกำลังพิจารณาทบทวนเรื่องขอบเขตการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในมาตรการให้ความช่วยเหลือรอบ 2 สำหรับกรีซตามที่ได้มีการตกลงกันเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนั้น เจ้าหนี้เอกชนตกลงที่จะปรับลดมูลค่าการถือครองพันธบัตรกรีซลง 21 % เพื่อช่วยลดภาระหนี้สินของกรีซ แต่เนื่องจากสถานการณ์ทาง เศรษฐกิจและการขาดดุลงบประมาณของกรีซย่ำแย่ลงมาก ข้อตกลงดังกล่าวจึงจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาใหม่
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาพุ่งขึ้น 4.2%
ขณะที่หุ้นแอปเปิล อิงค์ อ่อนตัวลง 0.5% แม้บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ iPhone 5 ที่สำนักงานใหญ่ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวานนี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม หุ้นสปรินท์ เน็กซ์เทล ดีดตัวขึ้น 4.8% หลังจากมีการคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ iPhone ของแอปเปิลจะช่วยหนุนธุรกิจไร้สายของสปรินท์ เน็กซ์เทลให้แข็งแกร่งขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนล็อตใหม่ในโรงงานของสหรัฐหดตัวลง 0.2% ในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว หลังจากที่ยอดสั่งซื้อปรับตัวสูงขึ้น 2.1% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ADP Employer Services จะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนในสหรัฐเดือนก.ย. และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะ เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนส.ค.