- ประเด็นร้อนวันนี้สถานการณ์อุทกภัยกว่า 20 จังหวัดทั่วประเทศ ต้องเตรียมรับมือกับอิทธิพลของพายุ"นาลแก"ที่จะขึ้นฝั่งที่เวียดนามวันนี้ แม้มีข่าวดีที่ลดกำลังลงเหลือแค่ดีเปรสชั่น แต่ยังประมาทไม่ได้ ประกอบกับล่าสุดเขื่อนภูมิพลระบายน้ำเพิ่มอีก 100 ลบ.ม./วันเพื่อความปลอดภัยของตัวเขื่อน ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนอาจต้องเผชิญกับระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอีก 1 เมตร รวมทั้งติดตามการกู้โบราณสถานเก่าแก่ที่ถือเป็นมรดกโลกภายในวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา จมน้ำ
กรมชลประทานแจ้งเตือนผู้ว่าราชการจังหวัดตั้งแต่ท้ายเขื่อนต่างๆ เตรียมรับมือน้ำล้นตลิ่ง โดยน้ำที่ระบายเพิ่มจากเขื่อนภูมิพลทำให้ จ.ตาก มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นทันทีวันนี้ 0.6 เมตร จากนั้นวันที่ 8 ต.ค.น้ำจะไหลไปถึง จ.กำแพงเพชร และนครสวรรค์ ทำให้น้ำสูงขึ้นอีก 0.36-1 เมตร และมวลน้ำดังกล่าวจะมาถึงที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กระจายลงทุ่งเจ้าพระยาหลายจังหวัด ก่อนที่จะเข้ากรุงเทพฯประมาณวันที่ 11 ต.ค. ตรงกับช่วงที่น้ำทะเลหนุน
ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายธีระ วงษ์สมุทร เจ้ากระทรวงจะแถลงความเสียหายพื้นที่ทางการเกษตรจากสถานการณ์อุทกภัย เบื้องต้นปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่ามีพื้นที่เพาะปลูกข้าวได้รับความเสียหายแล้ว 8.5 ล้านไร่ คิดเป็นปริมาณผลผลิตข้าวเปลือก 4-5 ล้านตัน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ลพบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ชัยนาท, นครสวรรค์ และพิษณุโลก
- ส่วนความเคลื่อนไหวทางการเมืองวันนี้คณะกรรมาธิการองค์กรอิสระ วุฒิสภา จะเชิญอัยการสูงสุด มาชี้แจงกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์คดีการหลบเลี่ยงภาษีในการขายหุ้นกลุ่มชินคอร์ป ซึ่งเป็นเรื่องที่คณะทำงานด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายถาวรเสนเนียม ได้เดินทางไปสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จากอัยการสูงสุดเพื่อนำมาประกอบการพิจารณา
- คณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะมีการหารือกันนัดแรกในการตรวจสอบปัญหาการทุจริตจัดซื้อกล้องทีวีวงจรปิด(CCTV) ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) ขณะเดียวกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ พรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติปัญหาดังกล่าวเข้าสู่การประชุมเป็นวาระแรก
- ภารกิจของนายกรัฐมนตรีวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ(ก.น.จ.) ครั้งที่5/2554 ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 13.30 น.นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์อย่างเป็นทางการ และกลับถึงประเทศไทยเวลา 23.55 น.
- เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง) ที่ ทำเนียบรัฐบาล จากนั้น 16.00 น.จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) นัดพิเศษ วาระสำคัญ คือ พิจารณาหลักเกณฑ์การแต่งตั้งที่จะใช้ในการแต่งตั้งประจำปี 54 และวาระต่อเนื่องจากการประชุม ก.ตร.ครั้งที่แล้ว
- ส่วนประเด็นด้านเศรษฐกิจที่น่าสนใจวันนี้ ติดตามการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง(ไตรภาคี) ซึ่งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เตรียมเสนอ 2 แนวทางให้แก่ที่ประชุมไตรภาคี คือ แนวทางแรก ยึดกรอบการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วัน แต่ตีความหมายเป็นรายได้ที่รวมกับเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการต่างๆ และค่าล่วงเวลา(โอที)ด้วย โดยขอปรับขึ้น 7 จังหวัดนำร่องก่อน ส่วนจังหวัดอื่นๆ ทยอยปรับขึ้นในกรอบระยะเวลา 3 ปี แนวทางที่สองให้นำค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท มาหาร 2 โดยครึ่งหนึ่งให้เอกชนรับภาระ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งรัฐบาลจะต้องจัดหาเงินงบประมาณมาชดเชยให้นายจ้าง
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) จะเชิญนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) มาหารือนอกรอบจากปกติที่จะมีการประชุมร่วมกันทุกไตรมาส เนื่องจากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยผันผวนและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกไม่ปกติ
- งานสัมมนาใหญ่ เวลา 13.30 น.ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี หัวข้อ"Thailand : Moving Forward with the New Government" โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โดยงานนี้นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "ทิศทางเศรษฐกิจปี 2555" ด้วย
- ธนาคารกสิกรไทย จัดงานแถลงข่าว K-SME Tourism Solutions K SME Care Knowledge Center ที่อาคารจามจุรีสแควร์
- กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ร่วมกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จัดเสวนาหัวข้อ Petrochemical Industry : Vision 2020 ที่โรงแรมคอนราด