สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 40,471 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันคือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 33,274 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 6,287 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 1 เดือน 4 ปี และ 6 ปี (LB11NA LB155A และ LB17OA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,516 ล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 558 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA) หุ้นกู้ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน)(TTW122A) และหุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT11OA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 265 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 5,928 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 1,593 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะขายสุทธิ 4,205 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยตลอดทุกช่วงอายุตราสาร โดยพบว่าวันนี้มีความความต้องการเข้ามาลงทุนในตราสารระยะกลาง — ระยะยาวเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับข่าวการปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 2555 ให้อยู่ที่ร้อยละ 3.0 (+/- ร้อยละ 1.5) ซึ่งน่าจะทำให้ กนง.มีความยืดหยุ่นในการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายมากขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.50% จนถึงสิ้นปี 2554 นี้
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.50% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.56% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันก่อนหน้า