ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์พุ่ง 131.24 จุดหลังภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 6, 2011 06:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับรายงานที่ว่า รมว.คลังยุโรปมีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคธนาคารได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 131.24 จุด หรือ 1.21% ปิดที่ 10,939.95 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 20.08 จุด หรือ 1.79% ปิดที่ 1,144.03 จุด ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 55.69 จุด หรือ 2.32% ปิดที่ 2,460.51 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อ ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. มากกว่าเดือนส.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 89,000 ตำแหน่ง และยังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่ง

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดว่า เผยดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ขยายตัวที่ระดับ 53 จุด ซึ่งแม้ว่าจะน้อยกว่าเดือนส.ค.ที่ขยายตัว 55.3 จุด แต่ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 52.9 จุด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นที่ลักเซมเบิร์มีมติเห็นชอบร่วมกันว่าจะเพิ่มทุนให้กับธนาคารในยูโรโซน เพื่อปกป้องภาคธนาคารก่อนที่จะลุกลามเป็นวิกฤตการณ์ โดยนายโอลลี เรห์น กรรมการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินยุโรปเปิดเผยกับไฟแนนเชียล ไทม์สว่า รัฐมนตรีซึ่งเคยปฏิเสธแนวคิดเรื่องการเพิ่มทุนให้กับภาคธนาคารนั้น ต่างก็หันมาทบทวนและเริ่มตระหนักถึงสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

รัฐบาลฝรั่งเศสและเบลเยียมประกาศมาตรการให้ความช่วยหลือธนาคารเด็กเซีย ซึ่งมาตรการดังกล่าวกำหนดว่าธนาคารเด็กเซียจะถูกแยกกิจการ โดยการขายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ส่วนสินทรัพย์ที่มีปัญหาซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลกรีซและพันธบัตรรัฐบาลของประเทศอื่นๆที่มีเศรษฐกิจอ่อนแอในยูโรโซนนั้น จะอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ bad bank ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน

หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ พุ่งขึ้น 5.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นบลูชิพที่คำนวณในดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขณะที่หุ้นแมคโดนัล คอร์ป อ่อนตัวลง 0.8%

หุ้นมอนซานโตพุ่งขึ้น 5.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นคอสโค โฮลเซล ร่วงลง 1.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท

หุ้นยาฮู อิงค์ พุ่งขึ้น 10.1% หลังจากมีรายงานว่าไมโครซอฟท์กำลังพิจารณาเข้าซื้อหุ้นในยาฮู ส่วนหุ้นรีเสิร์ช อิน โมชัน ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี ทะยานขึ้น 10% จากการคาดการณ์ที่ว่าบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้สูงขึ้นในปีนี้

นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั้งสองแห่งจะหารือกันเรื่องการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ