นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. (PTT) คาดว่ากำไรสุทธิของ ปตท. ในงวด 9 เดือนแรก ของปี 54 (ม.ค.-ก.ย.) จะใกล้เคียงกับกำไรสุทธิปีก่อนที่มีอยู่ 8.3 หมื่นล้านบาท โดยในครึ่งแรกของปีนี้ ปตท.มีกำไรสุทธิแล้ว 6.7 หมื่นล้านบาท
และในไตรมาส 4/54 คาดว่าจะไม่เกิดผลขาดทุน เนื่องจากบริษัทในกลุ่ม ปตท.ได้บริหารป้องกันความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง จึงน่าจะช่วยทำให้ ปตท. ไม่รับผลกระทบจากผลขาดทุนของบริษัทในกลุ่มดังที่เคยเกิดขึ้นในปี 51 โดยก่อนหน้านี้ได้มีการส่งสัญญาณให้บริษัทในกลุ่ม ปตท. โดยเฉพาะธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีเข้าล็อกราคาวัตถุดิบเพื่อรักษาส่วนต่างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดผลขาดทุน
"ปี 54 ผลประกอบการ 9 เดือนตัวเลข(กำไรสุทธิ)ยังสวย ถึงแม้ว่าตัวเลขในไตรมาส 3 จะสู้ไตรมาส 2 และไตรมาส 1 ไม่ได้ ฉะนั้นในไตรมาส 4 โรงกลั่น ปิโตรเคมีคุมไม่ให้กินเนื้อตัวเอง และ ปตท.สผ. กับ ปตท.ก็มีกำไรเข้ามา ปีนี้ยังไงก็เอาตัวรอดไปได้" นายประเสริฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 ปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันดูไบ ปรับตัวลงมา 90 เหรียญ/บาร์เรล จากต้นปีที่คาดราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 100- 110 เหรียญ/บาร์เรล และในปี 55 คาดว่าราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 90- 100 เหรียญ/บาร์เรล
แต่หากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกถดถอยมากราคาน้ำมันก็มีโอกาสปรับลงมาที่ 70-80 เหรียญ/บาร์เรล แต่คงไม่ปรับลงไปมากกว่านี้เพราะมีต้นทุนการผลิตสูงอยู่ ประกอบกับมีการผลิตลดลง จะทำให้ราคาเข้าสู่สมดุล
นายประเสริฐ กล่าวว่า หากเศรษฐกิจโลกถดถอยมาก จะไม่กระทบกับปตท. เพราะปตท.รักษาสถานะการเงินให้แข็งแกร่งตลอดเวลา คุมกระแสเงินสด ขณะที่ผลประกอบการการอาจจะอ่อนตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ