โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ฟิลลิป ซื้อ 14.50 บล.ดีบีเอสวิคเกอร์ส ซื้อ 11.30 บล.ยูไนเต็ด ซื้อ 16.00 บล.ธนชาต ซื้อ 11.50 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 12.92
นางสาวนารี อภิเศวตกานต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ"ซื้อ"หุ้นGFPT จากภาพรวมบริษัททั้งรายได้และกำไรดีกว่าปีที่แล้ว ทั้งการที่บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากบริษัทลูก GFN ที่บริษัทมีสัดส่วนถือหุ้น 50% แม้ว่าบริษัทต้องแบกรับผลขาดทุนจากการลงทุนแต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะมองว่าในอนาคตจะสร้างรายได้และกำไรให้กับบริษัท
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะเป็นฤดูกาลส่งออก แม้ว่าจะมีปัญหาเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐอเมริกาแต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของบริษัทเพราะสัดส่วนการส่งออกไปยุโรปมีไม่มากนักเพราะ GFPT ทำธุรกิจอาหารจึงไม่เกิดผลกระทบ
ด้านราคาหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานถือว่าหุ้น GFPT ราคาถูกมาก เพราะเทรดกันที่ PE 6-7 เท่า ขณะที่ PE กลุ่มสูงกว่ามาก และคาดว่าจะมีการจ่ายปันผลอีก 0.40 บาทต่อหุ้นหรือคิดเป็ฯอัตราการจ่ายปันผลกว่า 4%
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า กำไรไตรมาส 3/54 ของ GFPT จะออก,kดีสุดในรอบปีและกำไรทั้งปีสูงเป็นประวัติการณ์ Ffpคาดว่ากำไรในไตรมาส 3/54 จะอยู่ที่ 400-425 ล้านบาท แม้ยังต้องรับรู้ผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัท GFN แต่คาดว่าสิ้นปีจะสิ้นสุด ก่อนที่ปีหน้าจะรับรู้กำไรเต็มที่ และมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กำไรปี 54 ประมาณไว้ที่ 1,347 ล้านบาท และปี 55 คาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 1,675 ล้านบาท และคาดว่าจะจ่ายปันผลจากผลประกอบการงวดปี 54 ที่ 0.32 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราจ่ายปันผลราว 4%
นอกจากนี้ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเพราะ ธุรกิจอาหาร มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน จึงไม่น่าจะได้รับผลกระทบ และอาหารสัตว์ยังคงเติบโตสูง ส่วนไตรมาส 4/54 แม้จะผ่านพ้นช่วง High season ของธุรกิจขายอาหารสัตว์ไปแล้ว แต่ด้วยเราคาดมีแรงหนุนทั้งจากคำสั่งซื้อไก่ส่งออกจากฝั่งสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยบวกของ GFN ที่จะเริ่มเข้าสู่จุดคุ้มทุน ดังนั้น เราจึงเชื่อมั่นผลการดำเนินงานใน 4Q54 จะยังดีกว่า 4Q53 ที่มีกำไร 219 ล้านบาทได้
ประเมินราคาหุ้นในปัจจุบันซื้อขายบน PER ที่ค่อนข้างถูกมากแล้วในเชิงเปรียบเทียบกับระดับ ROE ของบริษัท โดยซื้อขายบน PER ปี 54 เพียง 9 เท่าเทียบกับ PER กลุ่มที่ศึกษาที่ 12 เท่า
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ประเมินว่า GFPT ได้รับปัจจัยบวกจากผลดำเนินงานของบริษัท โดยคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิราว 1,350 ล้านบาท และปี 55 จะเติบโตอีก 8% ทั้งนี้มาจากธุรกิจการขายเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคและอาหารสัตว์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3/54 ราคาเนื้อไก่ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/54 แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาเนื้อไก่ยังสูงกว่าราว 19% แลในไตรมาส 4/54 คาดว่าราคาเนื้อไก่จะกลับมาดีอีกครั้ง นอกจากนี้ราคาหุ้นถูกกว่าปัจจัยพื้นฐานค่อนข้างมาก และคาดว่าบริษัทจะมีการจ่ายปันผลราว 0.32 บาท/หุ้นด้วย