ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (10 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 330.06 จุด หรือ 2.97% ปิดที่ 11,433.18 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 39.43 จุด หรือ 3.41% ปิดที่ 1,194.89 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 86.70 จุด หรือ 3.50% ปิดที่ 2,566.05 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า นางแมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมที่กรุงเบอร์ลินว่า ผู้นำทั้งสองได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร
ทั้งนี้ ผู้นำทั้งสองจะสนับสนุนแผนการเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์ในยุโรป โดยจะดำเนินการตามมาตรฐานขั้นพื้นฐานและคำนึงถึงความมั่นคงในเชิงระบบเป็นหลัก ซึ่งนางแมร์เคลย้ำว่าจะพยายามผลักดันให้การเพิ่มทุนให้กับธนาคารพาณิชย์เกิดขึ้นโดยเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลฝรั่งเศส เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก ได้บรรลุข้อตกลงการแยกกิจการของธนาคารเด็กเซีย หลังจากที่ธนาคารขาดทุนมูลค่ามหาศาล อันเนื่องมาจากผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป ซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าว เด็กเซียจะต้องขายธุรกิจหลักทั้งหมด พร้อมกับจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือ bad bank ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสและเบลเยียมจะเป็นผู้รับประกัน bad bank
หลังจากนั้นไม่นานคณะกรรมการบริหารของเด็กเซียได้ออกแถลงการณ์ยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการที่ร่างโดยรัฐบาลฝรั่งเศส, เบลเยียมและลักเซมเบิร์ก โดยคณะกรรมการเด็กเซียได้ยอมรับข้อเสนอวงเงิน 4 พันล้านยูโรของรัฐบาลเบลเยียมเพื่อซื้อกิจการเด็กเซีย แบงก์ เบลเยียม
ทั้งนี้ นักลงทุนมองว่าการแปรรูปธนาคารเด็กเซียของฝรั่งเศส-เบลเยียมนั้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ ว่ารัฐบาลจะเข้าดำเนินการและป้องกันไม่ให้ธนาคารขนาดใหญ่ล้มละลาย
หุ้นกลุ่มการเงินนำตลาดทะยานขึ้น โดยดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 5.3% โดยหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่ง 5.2% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกาพุ่ง 6.4%
หุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 5.1% หลังจากมีรายงานว่ายอดสั่งซื้อไอโฟนรุ่นใหม่มีอยู่มากกว่า 1 ล้านเครื่อง ขณะที่หุ้นยาฮู อิงค์ ดีดขึ้น 2.4% หลังจากมีข่าวว่านายเจอร์รี หยาง ผู้ก่อตั้งยาฮู อาจจะทำข้อตกลงขายหุ้นบางส่วนให้กับนักลงทุนบางกลุ่ม
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีการจ้างงานเดือนก.ย. วันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC เมื่อวันที่ 20-21 ก.ย.
วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนต.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.