โบรกเกอร์หนุนลงทุนหุ้น บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง(SCCC)มองได้รับประโยชน์จากการฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างที่ได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมหนัก ความต้องการใช้ปูนซีเมนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสแรกปี 55 ประกอบกับ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่มีแผนลงทุนกว่า 8 แสนล้านบาททั้งโครงการรถไฟฟ้าและระบบชลประทาน ยิ่งทำให้ความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นในปีหน้า
ด้านผลประกอบการในปีนี้คาดว่า SCCC จะมีกำไรประมาณ 3.7 พันล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีกำไร 2.7 พันล้านบาท เป็นผลจากโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งจากเตาเผาปูนซีเมนต์มาผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้บริษัทสามารถประหยัดต้นทุนพลังงานได้มาก และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้สูงขึ้นกว่าปีก่อนเป็น 14 บาทต่อหุ้น จากปีก่อนจ่าย 11 บาทต่อหุ้น
อีกทั้ง ราคาหุ้นในขณะนี้ซื้อขายค่อนข้างถูก ราคายังมีอัพไซด์จากมูลค่าพื้นฐาน โดยราคาวันนี้ปรับขึ้นไป 5.61% หรือ บวก 12 บาท มาอยู่ที่ 226 บาทเมื่อปิดตลาดช่วงเช้า
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย(บาท) บล.ฟิลลิป ซื้อ 294 บล.ทรินีตี้ ซื้อ 268 บล.เอเซียพลัส ซื้อ 265 บล.ธนชาต ซื้อ 255
นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล รองผุ้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส แนะนำ"ซื้อ"หุ้น SCCC เนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจจากการกระตุ้นภาครัฐ ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่างานกว่า 8 แสนล้านบาท ได้แก่ งานก่อสร้างรถไฟฟ้า งานชลประทาน
นอกจากนี้ หลังภาวะน้ำท่วมคาดว่าจะมีการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้น ในไตรมาส 1/55 ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น ยิ่งทำให้ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
ด้านนายดนัย ดุลยาพิศิษฐ์ชัย นักวิเคราะห์จากบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) คาดว่าหลังภาวะน้ำท่วมจะมีดีมานด์ปูนซีเมนต์ใช้ในการซ่อมแซมบูรณะ ทำให้ราคาหุ้นกลับมามีแรงซื้อเข้ามามาก อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ยังเป็นช่วงโลว์ซีซั่น และอยู่ในภาวะน้ำท่วมการใช้จะน้อยลง แต่คาดว่าในไตรมาส 1/555 จะมีปริมาณความต้องการเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาหุ้น SCCC ขณะนี้ถูกลงจากเดิมโดยมีการซื้อขาย ที่ P/E 13 เท่า จากที่เคยซื้อขายที่ระดับ P/E 16-17 เท่า โดยให้ราคาเหมาะสมที่ 294 บาท P/E ที่ 16-17 เท่า
"เราคิดว่าตอนนี้ซื้อขาย P/E ต่ำ ระดับราคาหุ้นเคยวิ่งไปเทรดที่ P/E 12-17 เท่า ก็มีโอกาสปรับขึ้นได้อีก" นายดนัย กล่าว
ขณะที่นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ นักวิเคราะห์ จาก บล.ทรีนิตี้ กล่าวว่า แนวโน้มปี 54 ประเมินผลประกอบการ SCCC จะพลิกกลับมาเติบโตโดดเด่น หลังจากติดลบมา 6 ปี โดยจะได้แรงหนุนจากต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศจะเติบโตประมาณ 5% ตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการลงทุนของภาคเอกชน ด้านราคาขายปูนซีเมนต์เฉลี่ยคาดจะปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 50-100 บาท/ตัน
นอกจากนี้ SCCC ได้ลงทุนในโครงการนำความร้อนเหลือทิ้งจากเตาเผาปูนซีเมนต์มาผลิตกระแสไฟฟ้า คาดจะประหยัดไฟฟ้าในปี 54 รวมเท่ากับ 780 ล้านบาท ซึ่งทำให้กำไรในครึ่งปีแรกเติบโตโดดเด่น คาดว่าทั้งปี 54 จะมีกำไร 3.7 พันล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่มีกำไร 2.7 พันล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะจ่ายเงินปันผล 14 บาทต่อหุ้นจากปีก่อนจ่าย 11 บาทต่อหุ้น