สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 73,168 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันคือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 65,590 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 90% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 6,565 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี และ 10 ปี (LB155A LB15D A และ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 3,263 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 962 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท น้ำประปาไทย จำกัด (มหาชน) (TTW142A) หุ้นกู้ของบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW218A) และหุ้นกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY123A) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 729 ล้านบาท หรือคิดเป็น 76% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 32,101 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 3,545 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 2,629 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง หรือโดยเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงอยู่ในช่วงประมาณ -2 ถึง -7 Basis Point โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งจากธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 6.75% เป็น 6.5% ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเช่นกัน ส่งผลให้มีแรงซื้อจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเข้ามาในตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างหนาแน่น
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดที่ 3.47% ปรับตัวลดลง 0.02% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.45% ปรับตัวลดลง 0.05% จากวันก่อนหน้า