ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ลบ 16.88 จุด ตลาดจับตาสโลวาเกียโหวต EFSF

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 12, 2011 05:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลในขณะที่รอดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทเอกชนที่จะทยอยเปิดเผยในเดือนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 16.88 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 11,416.30 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.65 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 1,195.54 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 16.98 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 2,583.03 จุด

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ ในขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ปิดบวก เนื่องจากมีลงทุนมีความวิตกกังวลในขณะที่รอดดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุน (EFSF)

ทั้งนี้ ผลการลงมติของสโลวาเกียมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแผนการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF จะต้องผ่านความเห็นชอบจาก 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน ซึ่งในขณะที่สมาชิก 16 ประเทศได้ลงมติอนุมัติการขยายกองทุนดังกล่าวไปแล้ว

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงมติขยายกองทุน EFSF ของสโลวาเกียส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบในวันอังคาร หลังจากที่พุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันจันทร์ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่านางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทางการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธนาคารของยุโรป เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตหนี้สาธารณะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนซึ่งจะทยอยกันเปิดเผยในเดือนนี้ เพื่อเป็นปัจจัยบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของบริษัทในวอลล์สตรีท นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนจะช่วยหันเหความสนใจของนักลงทุนออกจากวิกฤตหนี้ยุโรปได้ โดยหลังจากที่ตลาดปิดทำการแล้ว บริษัทอัลโค อิงค์ จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3

หุ้นดอลลาร์ ทริฟตี้ ออโตโมทีฟ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเช่าซื้อรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 2% หุ้นไนน์ตี้ไนน์เซนต์ โอนลี สโตเรส พุ่งขึ้น 4.4%

ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยแฟคเซท บ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าผลประกอบการของบริษัทที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 12% ในไตรมาสสาม เมื่อเทียบกับไตรมาสสองของปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน FOMC เมื่อวันที่ 20-21 ก.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย., รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนต.ค. และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ