ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลในขณะที่รอดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทเอกชนที่จะทยอยเปิดเผยในเดือนนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 0.3% ปิดที่ 235.28 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3153.52 จุด ลบ 7.95 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5865.01 จุด บวก 17.72 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5395.70 จุด ลบ 3.30 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากมีลงทุนมีความวิตกกังวลในขณะที่รอดดูผลการลงมติของรัฐสภาสโลวาเกียต่อแผนการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ซึ่งการลงมติของสโลวาเกียมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากแผนการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF จะต้องผ่านความเห็นชอบจาก 17 ชาติสมาชิกยูโรโซน ซึ่งในขณะที่สมาชิก 16 ประเทศได้ลงมติอนุมัติการขยายกองทุนดังกล่าวไปแล้ว
นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้สาธารณะ พร้อมกับเตือนว่าวิกฤตหนี้อาจจะสร้างความเสียหายในเชิงระบบ
หุ้นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ของกรีซร่วงลงกว่า 16% โดยหุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ร่วงลง 16% หุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เอออร์การเซียส์ ดิ่งลง 20% หุ้นพิเรอุส แบงก์ ร่วงลง 20% และหุ้นอัลฟา แบงก์ ร่วงลง 19%
หุ้นเอสทีเอ็มไมโครอิเล็กทริก ร่วงลง 4.1% หลังจากซิตี้กรุ๊ปปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว