นายสุชิล นารูลา กรรมการผู้จัดการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ประเมินว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนนับจากนี้ยังคงแกว่งตัวผันผวนจากความกังวลเรื่องวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าดัชนี SET จะอยู่ในระดับ 820-950 จุด ทั้งนี้ ประเมินว่าวิกฤตหนี้ยูโรโซนจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า
"ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ตลาดหุ้นที่กลับขึ้นมาได้เพราะมีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาในยุโปแต่มาตรการต่างๆก็ยังไม่ชัดเจนตอนนี้ตลาดกำลังรอมาตรการที่ให้ความมั่นใจว่าปัญหาจะจบอย่างแท้จริงอย่างที่บอกว่าจะปรับโครงสร้างหนี้ จะปรับโครงสร้างอย่างไร แฮร์คัท เท่าไร รวมถึงการเพิ่มทุนของธนาคารพาณิชย์ในยุโรปก็จะต้องมากพอ"นายสุชิล กล่าว
ทั้งนี้ หากยุโรปสามารถแก้ปัญหาไปได้ สิ่งที่จะตามมาคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจและปัญหาการว่างงาน แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบกับเม็ดเงินลงทุนในเอเชียและไม่เกิดภาวะเงินไหลออกด้วย แต่หากภายในหนึ่งเดือนนี้ยังไม่มีมาตรการชัดเจนออกมา ปัญหาก็จะทวีความรุนแรงขึ้นและจะขยายไปสูวงกว้าง แต่อย่างไรก็ตามความเสียหายจากวิกฤตหนี้ยุโรปจะน้อยกว่าช่วงที่เกิดปัญหาซับพาร์มในสหรัฐเมื่อปี 51-52 ซึ่งทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงกว่า 400 จุด
สำหรับการลงทุนแนะนำให้นักลงทุนลดพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงที่มีข่าวดีในการแก้ไขปัญหาในยุโรปในช่วงปลายเดือน ต.ค.จนถึงต้นเดือน พ.ย.นี้ และให้นักลงทุนกลับเข้าสะสมหุ้นเมื่อดัชนีลดลงต่ำกว่า 850 จุด แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศเป็นหลัก อาทิ BBL ADVANC CPF MAJOR HMPRO CENTEL BGH LPN STEC AMATA คาดว่าจะฟื้นตัวรวดเร็วหลังภาวะน้ำท่วมคลี่คลาย นอกจากนี้ บล.กสิกรไทยเตรียมปรับมุมมองที่มีต่อตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ปีหน้าช่วงต้นเดือนพ.ย.