ปธ.สภาธุรกิจตลาดทุนเชื่อศก.โลกไม่เกิดวิกฤติรอบสอง หุ้นไทย-จีน-ทองน่าสนใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 12, 2011 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นรินทรางกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบล.ทิสโก้ กล่าวในงานสัมมนา"จัดพอร์ตลงทุนรับวิกฤตเศรษฐกิจในหัวข้อจัดเทรนด์เศรษฐกิจโลกรับมือการลงทุน 2012" ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในปีหน้าจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบสองเหมือนปี 52 ที่เศรษฐกิจโลกติดลบ 0.7% จากผลกระกระทบวิกฤตซับพาร์มในสหรัฐ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นกับยุโรปและสหรัฐในครั้งนี้มีความชัดเจนกว่า ประกอบกับ ภาคการเงินยังเติบโตไม่ได้ประสบปัญหาจนถึงขั้นต้องปิดกิจการ และธนาคารพาณิชย์ยังคงปล่อยกู้ปกติ ขณะที่ภาคธุรกิจก็ยังมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

"ปีหน้าโอกาสที่สหรัฐถดถอยคงไม่มีเช่นเดียวกับจีน แต่ยุโรปอาจจะเริ่มถดถอยตั้งแต่ไตรมาสนี้ถึงไตรมาสหน้า แต่เมื่อความชัดเจนจากมาตรการต่างๆ ก็คิดว่ายุโรปจะกลับมาเติบโตในครึ่งปีหลังปี 55"นายไพบูลย์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มตลาดเงินและตลาดทุนโลกในช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะมีความผันผวนสูง เนื่องจากการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปยังไม่ชัดเจน ขณะนี้นักลงทุนยังคงรอดูแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่มาตรการที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเหมือนที่เป็นอยู่ ด้านตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวลงไปได้อีก แต่ป็นช่วงสั้นเท่านั้น และมีโอกาสปรับตัวขึ้นมาได้เช่นเดียวกัน แต่ไม่แนะนำให้นักลงทุนเล่นเก็งกำไร

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังมีแนวโน้มเติบโต แม้ว่าภาคการส่งออกอาจจะซบเซาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก แต่ประเทศไทยจะมีการพึ่งพาการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาระหนี้สินของประเทศยังอยู่ในระดับต่ำ การขาดทุนของรัฐบาลก็ยังไม่มากประกอบกับ อัตราดอกเบี้ยที่ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว เมื่อเกิดเหตุกาณ์ที่ไม่คาดฝันยังใช้กลไกทางการเงินโดยการปรับลดดอกเบี้ยลงได้

สินทรัพย์ที่แนะนำในการลงทุนในปี 55 เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นยังน่าสนใจ เพราะราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยยังไม่แพง ประกอบกับมาตรการปรับลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 23% ในปีหน้าจะส่งผลดีต่อกำไรบริษัทจดทะเบียนให้เพิ่มสูงขึ้นช่วยชดเชยผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้ และตลาดหุ้นไทยในปีหน้าจะมีผลประกอบการติด 1 ใน 3 ในเอเชียเช่นเดียวกับปีนี้

นอกจากนี้ยังมีตลาดหุ้นจีนที่น่าสนใจ แม้ว่าผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาจะซบเซา แต่เป็นไปตามภาพรวมภาวะเศรษฐกิจหลังรัฐบาลควบคุมไม่ให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วจนเกินไป โดยมองว่า 6 เดือนข้างหน้าตัวเลขเศรษฐกิจของจีนยังคงไม่ดีขึ้นมาก แต่หลังจากนั้นเชื่อว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัว

ในส่วนของราคาทองคำแม้ว่าราคาจะผันผวนมากในช่วงนี้ แต่ในระยะยาวมองว่ายังน่าลงทุนสามารถป้องกันความเสี่ยงได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ