ว่าที่ ร.ท.อนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวยืนยันว่า เครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติที่สนามบินสุวรรณภูมิ และยังไม่มีระดับน้ำเข้ามาในตัวสนามบินแต่อย่างใด โดยมีระดับน้ำด้านนอก 60-70 ซม. ทางท่าอากาศยานได้มีศูนย์ฉุกเฉิกที่เฝ้าระวังระดับน้ำ พร้อมได้มีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว
"ระดับน้ำตอนนี้ยังเป็นปกติ เครื่องบินขึ้นลงได้ตามปกติ ...เรามีความเชื่อมั่นว่า สนามบินสุวรรณภูมิจะไม่รับผลกระทบ" ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับความร่วมมือจากกรมทางหลวง ในการเสริมความแข็งแรงของเขื่อนดินรอบพื้นที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร และขณะนี้กรมทางหลวงได้เสริมคันดินเหนียวให้สูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร รวมเป็น 3.50 เมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการรองรับและเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันน้ำท่วม
อนึ่ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีเขื่อนดินสูง 3 เมตรรอบพื้นที่ยาวประมาณ 23.5 กิโลเมตร ภายในเขื่อนมีคลองระบายน้ำล้อมรอบ เพื่อระบายน้ำลงอ่างเก็บน้ำ 6 แห่งที่รองรับปริมาณน้ำได้ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร และด้านทิศใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีสถานีสูบน้ำ 2 สถานี สถานีละ 4 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้ 12 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เข้ามาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ กรมทางหลวงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างจากศูนย์สร้างทางกาญจนบุรี ขอนแก่น ลำปาง เพชรบูรณ์ และสำนักงานทางหลวงกรุงเทพ จำนวนกว่า 200 คน ขณะนี้ได้ก่อสร้างไปแล้วกว่า 6 กิโลเมตร ซึ่งจะแล้วเสร็จทั้งหมด 23.5 กิโลเมตร ภายในวันที่ 20 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้มีความห่วงใยชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากกรมทางหลวงในการขุดลอกคูคลองบริเวณต้นคลองลาดกระบัง เพื่อขยายพื้นที่ในการรองรับและช่วยให้การระบายน้ำเกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนในด้านทิศใต้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ประสานงานกับกรมชลประทานในการเร่งระบายน้ำออกสู่ชายทะเล