โบรกฯหนุน"ซื้อ"BCP มอง Q4/54 กำไรฟื้นตัว-ราคาหุ้นถูกสุดในกลุ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 14, 2011 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์แนะลงทุนหรือซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวหุ้น บมจ.บางจาก ปิโตรเลียม(BCP)เพราะมองว่ากำไรทั้งปี 54 ยังเติบโตได้ดี แม้กำไรในไตรมาส 3/54 อาจลดลงจากไตรมาส 2/54 ค่อนข้างมากตามค่าการกลั่น และมีกำไรจากสต็อกน้ำมันลดลงหรืออาจขาดทุน รวมทั้งมีการปิดซ่อมโรงกลั่น แต่ช่วงไตรมาส 4/54 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวกลับมาดี โดยมีรายได้จากโซลาร์ฟาร์มเข้ามาหนุน อีกทั้งยังเป็นหุ้นให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลได้ปีละประมาณ 5% ด้วย

ขณะที่ราคาหุ้น ต่ำที่สุดในกลุ่มพลังงาน แต่ราคาไม่กี่วันที่ผ่านมาปรับขึ้นตามตลาดรวม จึงแนะให้รออ่อนตัวอีกค่อยเข้าไปเก็บไว้

          โบรกเกอร์        คำแนะนำ      ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.กรุงศรีอยุธยา   ซื้อเมื่ออ่อนตัว       21.60
          บล.เกียรตินาคิน    ซื้อ               22.00
          บล.ทรีนิตี้         ซื้อ               22.50
          บล.เอเซียพลัส     ซื้อเมื่ออ่อนตัว       24.00
          บล.ฟิลลิป         ซื้อ               26.50

นายชาญวุทธ เตชอมรธนกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา แนะ"ซื้อ"หุ้น BCP เมื่อราคาอ่อนตัว เพราะคาดแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/54 จะอ่อนตัวกว่าในไตรมาส 2/54 และแนวโน้มกำไรสุทธิในปีหน้าจะลดลงประมาณ 22% จากปีก่อน(YoY)เนื่องจากค่าการกลั่นอ่อนตัวลงหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

อย่างไรก็ดี BCP มีจุดเด่นที่ราคาถูกทั้งในแง่ P/E และ PBV ที่ต่ำสุดในกลุ่มพลังงาน และยังมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 5%ต่อปี

ทั้งนี้ ไตรมาส 3/54 คาดว่าค่าการกลั่นจะลดลง และจากการปิดซ่อมบำรุงทำให้กำไรในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อน โดยคาดว่าค่าการกลั่น (รวมสต็อกน้ำมัน) อยู่ที่ 6 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 12 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งได้รับกำไรจากสต็อกประมาณกว่า 5 เหรียญ/บาร์เรล

"ผมมองว่าโอกาสราคาหุ้นจะลงได้อีก ราคาตอนนี้ที่ปรับตัวขึ้นมาตามรอบตลาดมากกว่า แต่เรื่องยุโรปสหรัฐเป็นตัวถ่วงราคา ถ้าเล่นสั้นๆก็น่าจะเล่นได้" นายชาญวุทธ กล่าว

ด้าน น.ส.นลินรัตน์ กิตติกำพลรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชีย พลัส แนะนำลงทุน BCP เมื่อราคาอ่อนตัว และไม่ได้เป็น top picks เนื่องจากมองว่ากำไรในไตรมาส 3/54 จะออกมาไม่ค่อยดี โดยคาดว่าจะมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ตอนนี้กำลังประเมินตัวเลขเบื้องต้น

อย่างไรก็ดาม ทั้งปี 54 คาดว่ากำไรสุทธิจะออกมาดี เพราะครึ่งแรกทำได้ดีแล้ว กำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.8 พันล้านบาท

บล.เกียรตินาคิน คาดกำไรสุทธิ Q3/54 อยู่ที่ 642 ล้านบาท ลดลง 79%qoq ส่วนหนึ่งมาจากกำลังการกลั่นที่ลดลง หลังบริษัทหยุดซ่อมนอกแผน และค่าการกลั่นที่ลดลงจากการรับรู้ Stock Gain ลดลงตามทิศทางราคาน้ำมัน คาดกำไรสุทธิ Q3/54 จะเป็นจุดต่ำสุด

ทั้งนี้ เชื่อว่าค่าการกลั่นที่ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง รวมทั้งการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ จะหนุนกำไรสุทธิ Q4/54 ฟื้นตัว

"เรามองว่าราคาหุ้น BCP ยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน โดยปัจจุบัน BCP มี ROE ในระดับเดียวกับโรงกลั่นในภูมิภาค แต่มี PBV ต่ำเพียง 0.76 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ระดับ 1.49 เท่า ขณะที่ราคาปิดล่าสุดยังมี Upside Gain 20% ทำให้เรายังคงแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 22 บาท" บทวิเคราะห์ระบุ

บล.ทรีนิตี้ คาดการณ์ กำไรสุทธิไตรมาส 3/54 อ่อนแอลง 75%QoQ แต่เป็นไปตามที่คาดหมายเดิมอยู่แล้ว โดยปริมาณการผลิตในไตรมาส 3/54 เท่ากับ 88,000 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับไตรมาส 1/54 ผลิตที่ 62,700 บาร์เรลต่อวันไตรมาส 2/54 อยู่ที่ 98,200 บาร์เรลต่อวัน และงวด 1H54 เท่ากับ 80,500 บาร์เรลต่อวัน

สาเหตุที่น้อยกว่าไตรมาส 2/54 เนื่องจากมีการหยุดซ่อมหน่วย Gasoline Oxtane 10 กว่าวัน คาดว่าไตรมาส4/54 จะเดินหน้าผลิตเต็มที่เกิน 100,000 บาร์เรลต่อวัน จึงจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นค่าเฉลี่ยการผลิตทั้งปีที่ 91,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในปี 55 จะผลิตใกล้เคียงกับปี 54 เนื่องจากมีแผนหยุดซ่อมบำรุง 30 วันช่วงหลังสงกรานต์เช่นกัน

นอกจากนี้ ปรับราคาเหมาะสมจากเดิม 29 บาท เป็น 22.50 บาท เป็นเพราะ ปรับกำไรสุทธิปี 54 เพิ่ม 15.6% เนื่องจาก 1H54 ทำกำไรได้สูงเกินคาดไปมาก และลดปี 55 ลง 15% สะท้อนราคาน้ำมันที่เราคาดการณ์ว่าอ่อนแอลง จาก 100 เหรียญฯ เป็นสมมติฐานใหม่ 85 เหรียญฯต่อบาร์เรล เราประเมินราคาเหมาะสมใหม่ด้วยวิธี DCF เท่ากับ 22.57 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ