นายอำพน นิติอำพน ประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้บริษัทซื้อหุ้นบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด จำนวน 10% คิดเป็นหุ้นจำนวน 5 ล้านหุ้น โดยซื้อจากธนาคารกรุงไทย (KTB) ในราคาหุ้นละ 33 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 165 ล้านบาท
หลังจากการซื้อหุ้นดังกล่าวจะทำให้บริษัทมีสัดส่วนการถือครองหุ้นสายการบินนกแอร์เพิ่มจาก 39% เป็น 49% และจะมีจำนวนตัวแทนเข้าเป็นกรรมการเพิ่มขึ้นจาก 4 คน เป็น 5 คน จากคณะกรรมการทั้งสิ้น 9 คน ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้แต่งตั้งนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI เป็นกรรมการคนใหม่ในสายการบินนกแอร์
"บอร์ดตัดสินใจซื้อหุ้นนกแอร์จากกรุงไทยที่เสนอมาราคาหุ้นละ 33 บาท ถึงตอนนี้มูลค่าปัจจุบันไม่ถึง 33 บาท แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะเกิน 33 บาท นกแอร์มีกำไรติดต่อกัน 3 ปีแล้ว คำนวณแค่ผลตอบแทนจากเงินปันผลก็เกิน 10%" นายอำพน กล่าว
ประธานคณะกรรมการ THAI กล่าวว่า การบินไทยได้วางตำแหน่งสายการบินนกแอร์ให้ทำตลาดในประเทศ ขณะที่สายการบินไทยสมายล์ เน้นทำตลาดภูมิภาค (Regional) ส่วนการบินไทยจะยังคงยึดเส้นทางบินหลัก รวมถึงเส้นทางหลักในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ และภูเก็ต เป็นต้น
ฝ่ายบริหารยังได้รายงานผลการดำเนินงานด้านการขนส่งประจำเดือนก.ย.54 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ว่า อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่เฉลี่ยร้อยละ 70.1 ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 4.1 ขณะที่เดือนม.ค.-ก.ย.54 มี Cabin Factor เฉลี่ย 72.2%
อย่างไรก็ดี ในเดือน ก.ย. 54 บริษัทมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อน 5.9% และมีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร(ASK)สูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 5.0% ส่วนปริมาณการขนส่งผู้โดยสารสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อน 0.7%
นายอำพน กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นชอบให้บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด (การบินไทยถือหุ้น 30%) เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย เพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการบริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงินให้เบ็ดเสร็จ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตั้งข้อสงสัยเหตุใดจึงไม่มีกำไร และคาดว่าจะมีปัญหาการบริหาร เนื่องจากโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ เป็นโรงแรมเดียวในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจำนวนผู้โดยสารก็มีเป็นจำนวนมาก