ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกสหรัฐและผลประกอบการของกูเกิลที่แข็งแกร่งเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์บวก 166.36 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 11,644.49 จุด สำหรับทั้งสัปดาห์ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น 4% นับว่าปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 20.92 จุด หรือ 1.74% แตะที่ 1,224.58 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ดัชนีทะยานกว่า 6% ถือว่าขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2552
ดัชนี Nasdaq ปิดบวก 47.61 จุด หรือ 1.82% แตะที่ 2,667.85 จุด สำหรับตลอดสัปดาห์ดัชนีทะยานกว่า 7% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกูเกิลที่พุ่ง 5.8% หลังบริษัทเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีเกินคาด อันเป็นผลมาจากยอดขายโฆษณาที่แข็งแกร่ง และการควบคุมต้นทุนอย่างดี ขณะที่หุ้นแอปเปิลก็ทะยาน 3.3% หลังจากที่ iPhone 4S เริ่มวางตลาด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กูเกิลมีรายได้ 9.72 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน โดยเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบรายปี ส่วนผลกำไรอยู่ที่ 2.73 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับ 2.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 9.72 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 8.74 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกันยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัว 1.1% ในเดือนกันยายน เหนือกว่าระดับ 0.3% ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 0.7% ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งเป็นกลไกช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ตัวเลขค้าปลีกที่ดีจึงเป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ว่า สหรัฐไม่น่าจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยซ้ำอย่างที่เกรงกลัวกัน