บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS) ตัดสินใจชะลอซื้อกิจการในต่างประเทศ 2 แห่ง หลังการเจรจายังไม่สามารถสรุปเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารจัดการได้ ขณะที่บริษัทคาดว่าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ปี 55 จะยังทรงตัวจากปี 54 ที่ระดับ 5-6% หากมีการเปิดเสรีธุรกิจโบรกเกอร์ตามแผนงานของภาครัฐ และการแข่งขันสูง
นายสุรพล ขวัญใจธัญญา กรรมการและรองประธานกรรมการบริหารของ CGS กล่าวว่า บริษัทได้ชะลอการตัดสินใจซื้อกิจการ บล.ในฮ่องกงและสิงคโปร์ จากแผนเดิมที่จะคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ เนื่องจากมองว่าความจำเป็นในการซื้อกิจการดังกล่าวมีน้อยลงหลังจากบริษัทได้พันธมิตรต่างประเทศใหม่ คือ Saxo Bank ทำให้บริษัทสามารถทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นได้มากถึง 18 ประเทศทั่วโลก ประกอบกับ การเจรจาซื้อกิจการยังไม่ได้ข้อสรุป โดยติดเงื่อนไขการบริหารจัดการที่บริษัทต้องการเข้าถือหุ้นในสัดส่วนมากถึง 70% เพื่อมีอำนาจในการบริหารจัดการ
อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการโบรกเกอร์ต่างประเทศ น่าจะเห็นความชัดเจนในปี 55 เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น ซึ่งการซื้อโบรกเกอร์ต่างประเทศเพื่อเพิ่มรายได้ด้านวาณิชนธนกิจ โดยเฉพาะต้องการเจาะตลาดประเทศจีน และตลาดเกิดใหม่ในอาเซียน
นายสุรพล กล่าวอีกว่า ในปี 55 ที่มีการแข่งขันเสรีและการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น แต่บริษัทยังคงที่จะรักษามาร์เก็ตแชร์ในธุรกิจค้าหลักทรัพย์ใกล้เคียงปี 54 ที่อยู่ 5-6% และจากที่บริษัทมีฐานลูกค้ารายย่อยมากถึง 50% ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบจากการแข่งขันเสรีน้อยกว่าโบรกเกอร์ที่มีฐานลูกค้ารายใหญ่ ขณะเดียวกันบริษัทจะให้ความสำคัญในการนำไอทีและระบบเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต
บริษัทสนับสนุนแนวคิดของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ที่ขอให้ทางการชะลอการเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นออกไปก่อน เนื่องจากภาวะตลาดยังไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะภาวะตลาดต่างประเทศที่ยุโรปและสหรัฐยังมีปัญหาเศรษฐกิจ ประกอบกับ ต้นทุนค่าแรงงานที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะบริษัทที่มีพนักงานจำนวนมาก