(เพิ่มเติม) TISCO คาดสินเชื่อปี 54 โตกว่า 20%, น้ำท่วมกระทบระยะสั้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 17, 2011 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อในไตรมาส 4/54 คาดว่าจะชะลอลง โดยเฉพาะช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม แต่มองเป็นจะกระทบระยะสั้น และคาดว่าในเดือน ธ.ค.การปล่อยสินเชื่อจะกลับมาขยายตัวได้หลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย และเป็นช่วงการจัดงานมอเตอร์โชว์ ขณะที่ทั้งปี คาดว่าสินเชื่อจะเติบโตได้มากกว่า 20%

ทั้งนี้ กลุ่มทิสโก้ได้มีการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าในพื้นที่น้ำท่วมคิดเป็น 3% ของพอร์ตสินเชื่อรวม แต่คาดว่าลูกค้าจะมีผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 1-2% โดยขณะนี้มีลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อ 300-400 ราย จากฐานลูกค้าเช่าซื้อทั้งหมด 4 แสนราย ได้ติดต่อขอผ่อนปรนการชำระหนี้ ซึ่งธนาคารจะมีการพิจารณาการช่วยเหลือเป็นรายๆไป

"ช่วงต้นไตรมาส 4 สินเชื่อน่าจะชะลอต่อเนื่องจากปลายไตรมาส 3 จากผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งเรามีลูกค้า 3%ของพอร์ตรวม ได้มีการเตรียมการผ่อนปรนและปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ารายย่อยและธุรกิจเอสเอ็มอี...ภาพรวมเศรษฐกิจช่วงนี้คงชะลอตัวลง แต่ปลายปีคงกลับมา ส่วนสินเชื่อของเราตอนนี้ก็เกินเป้าไปแล้ว ทั้งปีน่าจะเกิน 20%"นางอรนุช กล่าว

และจากสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ ธนาคารได้สั่งปิดให้บริการสาขา 2 แห่ง ที่ จ.นครสวรรค์ และพระนครศรีอยุธยา และเตรียมเฝ้าระวังอีก 10 สาขา

นางอรนุช กล่าวอีกว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 19 ต.ค.54 คาดว่า กนง.น่าจะคงดอกเบี้ยที่ 3.50% เนื่องจากเศรษฐกิจขณะนี้ชะลอตัวจากภาวะน้ำท่วม ทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อคงไม่สูงเท่าช่วงที่ผ่านมา

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในปี 55 มองว่ายังเติบโตได้ดี โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล การปรับขึ้นเงินเดือน ปริญญาตรี ปรับค่าแรงงานขั้นต่ำ คาดว่าเศรษฐกิจเติบโตได้สูงกว่าปีนี้

นายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวโดดเด่นทั้งสินเชื่อและเงินฝาก สินเชื่อรวมเติบโตถึง 21.4% จากสิ้นปี 53 โดยสินเชื่อรายย่อยเติบโต 18.8% ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อธุรกิจเติบโตโดดเด่นถึง 46.3% และ 51.7% ตามลำดับ สินเชื่อรถยนต์ซึ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อหลักของทิสโก้ยังคงมีการขยายตัวที่น่าพอใจ โดยสินเชื่อเช่าซื้อเติบโต 16.7% จากสิ้นปี 53

"สถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้คงส่งผลกระทบต่อตลาดเช่าซื้อรถยนต์โดยรวมทั้งอุตสาหกรรมในช่วง 1-2 เดือนนี้ เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงที่ทุกคนหยุดและรอดูว่าเหตุการณ์น้ำท่วมจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ตลาดก็จะมีการฟื้นตัวทันที นอกจากนี้ยังมีปัจจัยส่งเสริมจากมาตรการรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของยอดขายรถยนต์ใหม่"นายสุทัศน์ กล่าว

สำหรับเงินฝากรวม ซึ่งได้แก่ เงินฝากและตั๋วแลกเงินระยะสั้นมีการเติบโตที่โดดเด่นเช่นกัน โดยเติบโตถึง 28.8% จากสิ้นปี 2553 เนื่องจากธนาคารได้นำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากและตั๋วและเงินด้วยอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 1 แห่งที่เซ็นทรัลลาดพร้าว เพื่อให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร และสำนักอำนวยสินเชื่อทิสโก้ลีสซิ่ง เพิ่มอีก 2 แห่งในต่างจังหวัด เพื่อให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ที่ครบวงจร โดยปัจจุบันมีสาขาธนาคารทิสโก้และสาขาสำนักอำนวยสินเชื่อ รวมกันจำนวน 56 แห่ง ทั่วประเทศ

นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ไตรมาส 3/54 กลุ่มทิสโก้มีผลกำไร 898.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 168.29 ล้านบาท หรือ 23.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 2,590.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 384.94 ล้านบาท หรือ 17.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 2,205.78 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 6.9%

นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 11.1% มาอยู่ที่ 3,130.22 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.2% ตามการขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อทุกภาคส่วนและธุรกิจประกันภัยธนกิจ ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานธุรกิจจัดการกองทุนเพิ่มขึ้น 12.3% ตามการขยายตัวของสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร และการออกกองทุนที่หลากหลายตรงตามความต้องการลูกค้า นอกจากนี้ รายได้ค่านายหน้าธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 13.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ตามปริมาณการซื้อขายของตลาดที่สูงขึ้น

มีเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 3/54 มีจำนวน 181,738.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 21.4% จากสิ้นปี 53 ตามการเติบโตของสินเชื่อในทุกภาคส่วน

ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ไตรมาส 3/54 มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันผ่าน บล.ทิสโก้ เท่ากับ 1,362.98 ล้านบาท ลดลง 16.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาด เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 นี้ มีปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่าปัญหาในประเทศดังกล่าวจะลุกลามมากขึ้น และมีการเทขายหุ้นทั่วโลก รายได้ค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ในไตรมาส 3/54 ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน 11.6% โดยสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ของ บล.ทิสโก้ ประกอบด้วย ลูกค้าสถาบันในประเทศ 26.3% ลูกค้าสถาบันต่างประเทศ 20.9% และลูกค้ารายย่อยในประเทศ 52.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ