นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เปิดเผยว่ จากสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ หากเป็นกรณีเลวร้ายสุดคาดว่าจะกระทบยอดขายปีนี้ เหลือเพียง 9-9.5 พันล้านบาท คิดเป็นเติบโต 10-15% จากปีก่อน จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมียอดขาย 1.1 หมื่นล้านบา หรือเติบโต 20% ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้ กรณีดีสุดคาดว่าน่าจะทรงตัวใกล้เคียงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท จากก่อนหน้านี้ตั้งเป้ามีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท
ขณะที่ยอดขายในไตรมาส 4/54 คาดว่าลดลงเหลือเพียง 2-2.5 พันล้านบาทจากเป้าหมายเดิมที่ 3 พันล้านบาท หลังจากโรงงานที่ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้ปิดเดินเครื่องการผลิตแล้ว จากปกติมีกำลังการผลิตเครื่องดื่ม 6.4 ล้านบรรจุภัณฑ์/เดือน เป็นแบบขวด 30 ล้านขวด/เดือน และแบบกล่อง 34 ล้านกล่อง/เดือน ครัวกลาง รองรับขนส่งสินค้าให้โออิชิ 120 สาขา และทำให้ยอดขายโดยรวมลดลงในหลายพื้นที่
"ตลาดชาเชียวโดยปกติในไตรมาส 4 จะเป็นไฮซีซั่น รวมถึงธุรกิจอาหาร แต่ตอนนี้ตลาดคงไม่โตเท่าที่คาดไว้ แต่ทุกคนโดนกันหมด กำลังการผลิตของทุกคนลดลง โดยบริษัทมีกำลังการผลิตเครื่องดื่มเหลือเพียง 1 ใน 3 และเหลือสต็อคที่พอขายได้เพียง 30 วัน และสต็อคอาหาร 11-14 วัน " นายแมทธิว กล่าว
ทั้งนี้โรงงานในนิคมฯนวนคร มีน้ำท่วมด้านหน้าแล้ว 70 ซม. ส่วนด้านหลังน้ำสูงเกิน 1 ม.แล้ว แต่ยังไม่เข้าท่วมภายในอาคารโรงงาน แต่บริษัทได้เตรียมการรับมือไว้พร้อมแล้ว โดยสร้างแนวกำแพงดิน กว้าง 3 ม. สูง 3 ม. รอบล้อมพื้นที่รอบโรงงาน 60 ไร่ และมี2 มีแนวกระสอบทราบรอบล้อมโรงงานอีกชั้น พร้อมเครื่องสูบน้ำ 50 เครื่อง เครื่องปั่นไฟ 2 เครื่อง เรือ 9 ลำ และตุนอาหารแห้งให้เพียงพอ 1 เดือน ให้พนักงานที่เฝ้าระวังโรงงาน ซึ่งขณะนี้ได้มีการย้ายพนักงานเกือบทั้งหมด 1,100 คนออกจากโรงงาน เหลือเพียง 111 คน ที่ยังอยู่ในโรงงาน
แต่ยอมรับว่ามีโอกาสที่น้ำจะท่วมเข้าโรงงาน เนื่องจากประเมินว่าภายใน 1-2 วัน น้ำคงไหลเข้าท่วมนิคมฯ นวนครทั้ง 100% ซึ่งหลังสถานการณ์น้ำคลี่คลาย คาดว่าต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ในการฟื้นฟู แต่หากน้ำไม่ท่วมภายในโรงงาน ก็จะกลับมาเดินเครื่องการผลิตได้ตามปกติภายใน 1 สัปดาห์
"ตอนนี้เราสร้างคันดินไว้เหมือนการซื้อเวลา ไม่ได้หมายความว่าน้ำจะไม่ท่วม เพราะคิดว่าที่นี่ (นิคมฯนวนคร) ก็อมน้ำมานานแล้ว และมีโอกาสจะเข้าท่วมใน 1-2 วัน หากท่วมจริงคงเท่าที่เหมือนที่สูงประมาณ 2 เมตรขึ้นไป" นายแมทธิว กล่าว
ทั้งนี้บริษัทได้มีการทำประกันภัยประเภท All Risk มูลค่าประกัน 3.4 พันล้านบาท แต่โรงงานในนิคมฯ มีมูลค่ารวม 4 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมีโรงงานที่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ที่มีกำลังการผลิตเครื่องดื่ม 15 ล้านบขวด/เดือน ซึ่งไม่น่าจะถูกน้ำท่วม และปัจจุบันยังเดินเครื่องการผลิตตามปกติ และได้มีการย้ายกำลังการผลิตซอสปรุงอาหาร จาก นิคมฯนวนคร มาไว้ที่ นิคมฯอมตะด้วย ขณะที่การผลิตอาหารอื่นๆ เช่น เกี๊ยวซ่า แซนวิช ที่จำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ 7-11 อาจต้องขาดตลาด เนื่องจากมีการผลิตที่ นิคมฯนวนคร ซึ่งปกติจะมียอดขาย 30-40 ล้านบาท/เดือน
นายแมทธิว กล่าวอีกว่า ในปีนี้ บริษัทยังคงแผนเปิดสาขาร้านอาหารอีก 5 สาขา จากปัจจุบันที่ 120 สาขา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่หลังเกิดน้ำท่วมคงต้องมีการประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนว่าจะสามารถเปิดสาขาได้ตามแผนหรือไม่