นายชนะชัย กุลนพฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.กุลธรเคอร์บี้(KKC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า แม้ว่าขณะนี้โรงงานของบริษัทที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบังยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ก็มีน้ำล้อมรอบนิคมฯสูงประมาณ 1.30 เมตรและภายในนิคมฯก็มีน้ำท่วมขังเล็กน้อย 5% ของพื้นที่นิคมฯ ทำให้บริษัทลดการผลิตลงตามที่ทางนิคมฯได้ขอความร่วมมือ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมและการอพยพหากเกิดน้ำทะลักเข้ามาภายในนิคมฯ
โรงงานผลิตคอมเพรสเซอร์ของบริษัทยังเดินเครื่องผลิตประมาณ 60% ของกำลังการผลิต จากปกติที่เดินเครื่อง 80% ของกำลังการผลิต ขณะที่บริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ โดยมีการก่อกำแพงสูงและเตรียมกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายสินค้าสำเร็จรูปไปเก็บไว้ที่โรงงานที่แหลมฉบังและกบินทร์บุรี หลังจากมีการแจ้งข่าวจากสำนักระบายน้ำของทางการว่าอีก 2 วันนี้อาจมีมวลน้ำก้อนใหม่ลงมาถึง ส่วนเครื่องจักรคงจะขนย้ายไม่ได้
"โรงงานเราในนิคมฯลาดกระบัง ณ วันนี้ยังไม่ได้รับความเสียหาย แต่มวลน้ำก้อนใหญ่จะมาอีก 2 วันนี้ บริษัทก็เฝ้าระวังเต็มที่"นายชนะชัย กล่าว
สำหรับวัตถุดิบในขณะนี้ยังมีเพียงพอในการผลิต และยังมีสินค้าเพียงพอจำหน่าย นอกจากนั้น ยังเป็นโอกาสดีของบริษัทที่ขณะนี้เริ่มมีลูกค้าติดต่อที่จะส่งคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)มาให้หลังจากโรงงานหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมแถบอยุธยาถูกน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา และคาดว่าจะยืนยันออร์เดอร์ได้ในเดือน พ.ย.
"หากเกิดน้ำท่วมที่ลาดกระบัง จะย้ายการผลิตไปโรงงานอื่นแทนก็คงไม่ได้เพราะมีดีไซน์ที่แตกต่างกัน สินค้าคนละขนาด แต่ข่าวดีก็คือแน่นอนคู่แข่งหลายรายรับปัญหาไปโรงงานที่เสียหายหยุดผลิตไป ลูกค้าก็เริ่มติดต่อมาที่เรา"นายชนะชัย กล่าว
นายชนะชัย กล่าวอีกว่า ยอมรับว่ายังประเมินรายได้ในปีนี้ได้ยาก เพราะคงต้องรอดูสถานการณ์ก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาก็มีความผันผวนพอสมควรจากปัจจัยนอกประเทศที่คาดว่าคงจะทำไม่ได้ตามเป้าหมาย ขณะที่ประเทศไทยก็เกิดภัยพิบัติ จากภาวะเช่นนี้ทำให้มีผลในการประเมินเป้ารายได้ปีหน้าด้วย
"เบื้องต้นคาดรายได้ปีนี้น่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.18 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% รายได้ปีนี้ไม่เท่าแผนแล้ว จากที่คาดจะโต 10% คงไม่ได้ ขณะที่กำไรปีนี้ก็ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบ(ทองแดงและเหล็ก)ที่แพงกว่าปีที่แล้ว"นายชนะชัย กล่าว