สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,929 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันคือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 58,172 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 92% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 3,548 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี 6 ปี และ 10 ปี ( LB155A LB17OA และ LB21DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,964 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 841 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) (SCCC136A) หุ้นกู้ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) และหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 466 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 16,557 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศซื้อสุทธิ 5,178 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 292 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานอีกเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงอยู่ในช่วงประมาณ -1 ถึง -2 Basis Point เนื่องจากมีแรงซื้อเข้ามาในตลาด จากทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ โดยเน้นไปในตราสารอายุ 1—5 ปีเป็นหลัก
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.46% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.39% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันก่อนหน้า