ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกปานกลางในวันนี้ (19 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่าเยอรมนีและฝรั่งเศสบรรลุข้อตกลงการเพิ่มวงเงินให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายมีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทสหรัฐทำให้นักลงทุนบางกลุ่มระมัดระวังการซื้อขาย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 30.63 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 8,772.54 จุด
หุ้นกลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษพุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุด ตามด้วยหุ้นกลุ่มขนส่งทางบก และกลุ่มเวชภัณฑ์ ส่วนหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ กลุ่มขนส่งทางอากาศ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน ร่วงลงในวันนี้
โบรกเกอร์กล่าวว่า ตลาดได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าผู้นำยุโรปจะสามารถควบคุมวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนได้ หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียน รายงานว่า เยอรมนีและฝรั่งเศสได้บรรลุข้อตกลงการเพิ่มขนาดของกองทุน EFSF เป็น 2 ล้านล้านยูโร
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการที่น้อยเกินคาดของบริษัท แอปเปิล อิงค์ ได้สกัดกั้นปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของอินเทล คอร์ป และแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งส่งผลให้ช่วงบวกในตลาดปรับตัวลดลงด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่บริษัทอีกหลายแห่งของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการ รวมถึงมอร์แกน สแตนลีย์ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในช่วงเย็นวันนี้ และก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้