สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 37,415 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดของวันคือ พันธบัตร ธปท. มีมูลค่าการซื้อขาย 27,398 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 73% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้
สำหรับประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายเป็นลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่า 9,088 ล้านบาท โดยพันธบัตรรัฐบาลรุ่นอายุคงเหลือประมาณ 4 ปี 10 ปี และ 14 ปี ( LB15DA LB21DA และ LB25DA) เป็นที่นิยมซื้อขายสูงสุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,525 ล้านบาท หรือคิดเป็น 61% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายรวม 728 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือ หุ้นกู้ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK127A) หุ้นกู้ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC144A) และหุ้นกู้ของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI12NA) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 570 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมด
นักลงทุนกลุ่มกองทุนมีสถานะซื้อสุทธิ 4,864 ล้านบาท กลุ่มนิติบุคคลในประเทศซื้อสุทธิ 345 ล้านบาท และกลุ่มของนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ 113 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากเมื่อวานอีกเล็กน้อย หรือเฉลี่ยแล้วปรับตัวลดลงอยู่ในช่วงประมาณ -1 ถึง -6 Basis Point ในวันนี้ผลการประชุมกนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.5% ต่อปี เพื่อให้เอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในประเทศ และจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาดตราสารหนี้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 3 เดือน ปิดคงที่ที่ 3.46% และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือ 5 ปี ปิดที่ 3.38% ปรับตัวลดลง 0.01% จากวันก่อนหน้า