ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ต.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ แม้เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนที่ว่า ฝรั่งเศสและเยอรมนีได้บรรลุข้อตกลงการเพิ่มขนาดกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ก็ตาม
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 0.6% แตะที่ 236.71 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวก 36.12 จุด หรือ 0.61% แตะที่ 5,913.53 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดบวก 16.24 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 3,157.34 จุด และดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 40.14 จุด หรือ 0.74% แตะที่ 5,450.49 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกถ้วนหน้า แม้นายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเจ้าหน้าที่อียูเปิดเผยว่าการเจรจาเรื่องการเพิ่มขนาดกองทุน EFSF ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการปฏิเสธรายงานข่าวในหนังสือพิมพ์เดอะ การ์เดียนของอังกฤษที่ระบุว่า ฝรั่งเศสและเยอรมนีได้บรรลุข้อตกลงเพื่อเพิ่มวงเงินในกองทุน EFSF ขึ้น 5 เท่า สู่ระดับกว่า 2 ล้านล้านยูโร
หุ้นบีสกายบีพุ่งขึ้น 5.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 16% สู่ระดับ 466 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
หุ้นดิเอจิโอพุ่งขึ้น 4% ส่วนหุ้นอัลคาเทล-ลูเซนท์ ดิ่งลง 7.7% และหุ้นโฮม รีเทล กรุ๊ป ร่วงลง 17%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ต.ค.นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ และคาดว่าจะมีการตกลงกันเกี่ยวกับรูปแบบการเพิ่มประสิทธิภาพของกองทุน EFSF โดยอาจจะเกี่ยวกับการใช้ EFSF เพื่อค้ำประกันการขาดทุนครั้งแรกสำหรับการออกตราสารหนี้ครั้งใหม่ในยูโรโซน